จักรยานเสือหมอบระดับแข่งขัน คันละแสนห้า สองแสน เป็นเรื่องปกติในตลาดโลก ซึ่งถ้าจะเรียกให้ครบจริงๆ เสือหมอบในระดับที่โปรเขาใช้แข่งกันจริงๆก็จะมีค่าตัวทะลุกันไปถึงระดับครึ่งล้านได้เลย ถ้าจะเอาให้ย่อมลงมาหน่อยก็คงเป็นพวกรุ่นรองๆที่ราคาค่าตัวก็อยู่ที่ค่อนแสน ไปจนถึงแสนต้นๆ ซึ่งนี่คือสิ่งมหัศจรรย์ที่เปลี่ยนประเทศไทยเราให้เป็นโชวร์รูมจักรยานไฮเอ็นด์ของโลกไปได้อย่างไรก็ไม่ทราบได้ เพราะ จักรยานรุ่นท็อปที่สุดของโลกหลายๆแบรนด์ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในบ้านเรา ทั้งๆที่รายได้ต่อหัวของประชากรชาวไทยนั้น ไม่ได้ติดอันดับต้นๆของโลกแม้แต่น้อย ขนาดของเศรษฐกิจบ้านเราก็เล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับนานาประเทศที่เจริญแล้วซึ่งจักรยาน แต่เขามีจักรยานไฮเอ็นด์น้อยกว่าบ้านเราเสียอีก
ในขณะที่มีรถเรือธงวิ่งกันเต็มถนน แต่ก็ยังมีคนอีกมากมายหลายหมื่น ที่มองหาความคุ้มค่าของสิ่งที่จับจ่าย แต่อนิจจาของสัจธรรมนั้นมีจริง เพราะในแบรนด์ต่างๆที่นำเสนอทางเลือกที่ย่อมเยาลงมา ก็ย่อมต้องมีอะไรที่ลดทอนหายลงไปบ้างตามสัดส่วนของราคาที่ถูกลง ดังนั้น จึงเกิดแบรนด์ต่างๆเข้ามาสอดแทรกเพื่อช่วงชิงความคุ้มค่าในจินตนาการของผู้บริโภคกันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดล่างขึ้นมาตรงกลาง หรือตลาดตรงกลางที่มองหาทางเลือกสู่คุณภาพระดับสูง
และด้วยช่องว่างตรงนี้ Ratana จึงกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นทางออกของคนที่มองหาเฟรมเสือหมอบที่สามารถตอบสนองได้อย่างที่ต้องการ มีความสามารถในระดับสูงสุดโดยที่มีราคาไม่สูงจนเกินไปนัก ผู้ผลิตเคลมว่า ในราคาค่าตัว สามหมื่นบาทมีทอนนี้ เฟรม Ratana สามารถให้สมรรถนะที่เทียบได้กับเสือหมอบระดับสองถึงสามแสนเลยทีเดียว ซึ่งก็ได้เปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 21-22 กรกฏาคม ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้รับความสนใจสุงมากจากนักปั่นทั่วไปที่มองหาตัวเลือกใหม่ๆ ให้จบในวงเงินที่ไม่บานปลาย
และในเร็วๆนี้ HUB จะทำการทดสอบ Ratana มาบอกเล่ากันว่า โดยรวมแล้ว ค่าตัวสามหมื่นบาทมีทอน ของแบรนด์ใหม่ จะครองใจพวกเราได้มากขนาดไหน พบกันได้ที่นี่ เร็วๆนี้
