6 ปี …เวลาขนาดนี้เทียบได้กับอะไรบ้าง? ยาวนานขนาดไหน? มันคือระยะเวลาที่เรียนจนจบประถมศึกษา หรือถ้าจะนึกให้ออกอีกอย่าง 6 ปีที่แล้ว เป็นเวลาเดียวกับที่บทเพลงสุดไวรัล”ประเทศกูมี” ออกเผยแพร่ ก่อนที่เราจะมีการเลือกตั้งทั่วไปที่จะนำมาซึ่งรัฐบาล “ประยุทธ์” เสียอีก นั่นคือเวลาที่เราได้ใช้รองเท้า BONT CYCLING รุ่นที่เพิ่งออกมาหมาดๆ HELIX มาโดยตลอด และ วันนี้ ถึงเวลาที่มาบอกเล่ากันแล้วว่า ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแยะมากมาย เป็นอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่น มาย้อนเล่าเรื่งอ BONT HELIX กันสักนิด สำหรับแบรนด์ BONT CYCLING จัดเป็นรองเท้าปั่นจักรยานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และบูมสุดๆในไทยช่วง 2015-2017 กับจุดเด่นของความแกร่ง ของพื้นรองเท้าคาร์บอน ที่สามารถอบให้เข้ากับรูปทรงของเท้า เพื่อการส่งแรงที่ดีเยี่ยมที่สุด เรียกได้ว่า ขาแรงในตอนนั้นต้องมี BONT ไว้ใส่กระทืบพลังวัตต์กันคนละคู่ และเป็นรองเท้าคู่บุญของสปรินท์เตอร์หญิงอันดับหนึ่งของไทยและครองตำแหน่งราชีนีสปรินท์เตอร์ของอาเซียนอย่าง บีซ จุฑาธิป มณีพันธุ์

BONT CYCLING ได้ส่งเอารุ่น HELIX รุ่นที่ออกแบบมาเพื่อรวมเอาความจัดจ้านของสมรรถนะที่ลือลั่น เข้ากับการออกแบบที่สร้างระบบของเส้นลวดที่จะช่วยโอบกระชับปรับความแน่นของรองเท้าแบบใหม่ ในคราบความหล่อของผิวรองเท้าแบบสะท้อนแสง ที่จะเรืองแสงสว่างในที่มืดได้โดดเด่น ช่วยเพิ่มทั้งความคูล และ เป็นหนึ่งในตัวเพิ่มความปลอดภัยในการปั่นยามค่ำคืนหรือแสงน้อยได้เป็นอย่างดี

จากที่ได้ทดลองใช้มา แนวคิดการออกแบบเช่นนี้ เทียบกับระบบแบบสองชุดรัดกระชับแบบเดิมที่มีในรุ่น VAYPOR S ที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ยอมรับในหมู่ขาแรงมาก่อนนั้น ต้องบอกว่า มีทั้งเด่นและด้อยแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยหากเราใช้เรื่องความแน่นของการรัด ตัว VAYPOR S จะรัดได้แน่นกว่า โดยเฉพาะที่จุดรัดเหนือหลังเท้าช่วงค่อนไปทางปลายเท้า ใกล้กับโคนนิ้วโป้ง ที่ HELIX  จะไม่ได้รัดแนบแน่นเท่า เนื่องจากการวนสายลวดรัดรอบๆ จะเฉลี่ยแรงรัดกระชับไปทั่วทั้งหลังเท้ามากกว่า ส่วนตัวรัดแบบสองชุดที่มีตัวหมุนแยกกันนั้น เราสามารถรัดส่วนบนและล่างได้ตามที่เราต้องการ ซึ่งที่ช่วงล่าง นักปั่นสายโหดหลายๆ คนนิยมหมุนรัดให้แน่นเข้าไปอีกเพื่อลดคามรู้สึกถึงช่องว่างขณะสปรินท์

อย่างไรก็ตาม HELIX ไม่ใช่รองเท้าที่ใส่แล้วรู้สึก”หลวม” นะครับ หากคุณทำการอบโครงรองเท้าจนเข้ากับเท้าได้ดีเยี่ยมแล้ว ระบบรัดที่ออกแบบมา จะทำหน้าที่ได้อย่างที่มันเป็น ความแน่นนั้น อาจพูดได้ว่าอยู่ตรงกลางระหว่างรุ่นล่าง กับแบบระบบ VAYPOR S ก็ไม่เชิง จะเรียกว่าเป็นคนละรูปแบบน่าจะเหมาะกว่า เพราะถ้านับความแน่นโดยรวมแล้ว HELIX ทำได้ไม่น้อยไปกว่า VAYPOR S  แน่นอน เพียงแต่มันคือการกระจายรวมๆ ทั้งเท้า ดังนั้นเวลาใส่รองเท้า HELIX  นักปั่นต้องดึงเส้นลวดที่รัดให้ตึงด้วยมือก่อน แล้วหมุนปรับความแน่น พร้อมทั้งดึงไล่เส้นลวดเพื่อรั้งให้ลวดที่อยู่ในโครงสร้างรองเท้าทั้งหมดตึงเต็มที่ ไม่เช่นนั้น เมื่อเราหมุนปรับความตึง ความแน่นจะกระจายไปแบบไม่เท่ากัน

เรื่องของรูปทรงและการอบโครงรองเท้า BONT HELIX เป็นรองเท้าที่เหมาะกับคนที่มีเท้ากว้าง โดยที่คุณควรไปเลือกไซส์ของรองเท้า ที่ร้านจักรยานที่ได้รับการอบรมจาก BONT CYCING ก่อนตัดสินใจเลือกไซส์ หากคุณเลือกไซส์จากความเคยชิน มีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่คุณจะได้รองเท้าที่แน่นจนเกินไป และ ไม่สามารถอบเพื่อดัดรูปทรงได้ตามต้องการ ส่งผลถึงประสิทธิภาพของรองเท้าที่ลดลง ในขั้นที่ร้ายที่สุด คุณจะได้รองเท้าที่ใส่แล้ว “เจ็บทีน” มาแทนอย่างช่วยไม่ได้

โครงสร้างคาร์บอนจะโอบอุ้มจนถึงช่วงด้านข้างของเท้าและโอบสูงขึ้นมาอีกช่วงส้นเท้า ซึ่งเมื่ออบและดัดรองเท้าเข้ารูปแล้ว โครงรองเท้าจะโอบรัดรอบเท้าอย่างเหมาะสม แตกต่างจากรองเท้าปั่นทั่วไปที่ไม่มีการอบโครงสร้างได้ เพราะรองเท้าโดยทั่วไป จะออกแบบโครงรองเท้าเน้นไปที่พื้นรองเท้าที่แข็ง ไม่สามารถยกโครงสร้างขึ้นมาโอบรับได้มากนัก เนื่องจาก การออกแบบต้องคำนึงถึงค่าความแตกต่างของสรีระผู้ใส่ด้วย หากทำให้โอบอุ้มกับเท้าหนึ่งๆ มากเกินไป จะไม่สามารถใส่ได้กับเท้าทรงอื่นๆ ที่มีขนาดเดียวกัน ซึ่งนี่แหละครับ คือที่มาของแนวคิดการออกแบบของ BONT CYCLING ที่ทำให้รองเท้าสามารถอบ ดัดด้วยความร้อนได้ ให้เหมาะกับเท้าคนได้หลากหลาย ในขณะที่ออกแบบโครงมาให้โอบอุ้มเท้ามากขึ้น

อุณหภูมิที่โครงสร้างรองเท้าเริ่มเสียรูปคือ 70 องศาเซลเซียส ขึ้นไป และใช้เวลาประมาณ 15 นาทีขึ้นไป ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังก็คือ การเก็บรองเท้าเอาไว้ในที่ร้อนจัดเป็นเวลานานๆ เช่น ในรถยนต์ที่จอดตากแดด แน่นอนครับว่า รองเท้า BONT  ไม่สามารถอ่อนยวบ เสียรูปได้ในการใส่ใช้งานปกติ หรือวางตากแดดเอาไว้ดื้อๆ แต่ภายในรถ หรือ สถานที่เก็บที่ไม่มีการระบายความร้อนเป็นเวลานานๆ มีโอกาสสูงมากที่รองเท้าจะได้รับความร้อนจนถึงจุดที่อ่อนตัวพอที่จะดัดได้ และนั่นคือข่าวร้ายหากคุณหยิบรองเท้ามาใส่ครั้งต่อไปแล้วพบว่า รองเท้าของคุณไม่ได้พอดีกับเท้าเหมือนดั่งเคย

ข้อนี้ ผู้ใช้ BONT ทุกคน ได้รับคำแนะนำว่า หากเก็บรองเท้าไว้ในที่ร้อนเป็นเวลานานๆ ต้องวางรองเท้าไว้บนสุด ให้แน่ใจว่า รองเท้าไม่โดนอะไรมากดทับจนเสียรูป แม้รองเท้าจะได้รับความร้อนจนอ่อนตัวลง แต่มันจะไม่เปลี่ยนรูปหากไม่โดนแรงบีบ กด ทับ เพราะคาร์บอนที่ใช้เป็นโครงรองเท้า ไม่ได้เป็นเนยแข็ง หรือพลาสติก ที่ร้อนจนตัวมันย้วยยวบลงมา ซึ่งหากคุณต้องการให้รองเท้าร้อน ยวบ จนละลายลงมาเสียรูปได้เอง ความร้อนระดับนั้น จะทำลายชิ้นส่วนอื่นๆ ไปก่อน จนรองเท้าเสียหายไปทั้งหมดอยู่แล้ว อุณหภูมิที่ว่านี้ สูงเกิน 200 องศาเซสเซียสโน่นเลย

เรื่องนี้จึงเป็นรายละเอียดเล็กที่ควรรู้ไว้ ไม่ได้เป็นข้อเสียแต่อย่างใด

และไฮไลท์ของการรีวิวเรา จะเริ่มหลังจากนี้ไปแล้ว เพราะนี่คือสิ่งที่แตกต่างจากรองเท้าหลายยี่ห้อที่เราเคยผ่านมา แม้แต่ในแบรนด์ BONT เองด้วยแล้ว เราต้องทึ่งกับความทนทานของรองเท้าเป็นอย่างมาก จากภาพ ท่านจะเห็นได้ว่า ภายนอกของรองเท้า มีร่องรอยถลอก ลอก หลุด บางรอยลึกลงไปถึงชั้นหนังของรองเท้า บ้างก็โดนขูดลงไปจนเห็นได้ชัด ทว่า ไม่มีแม้แต่ตะเข็บเย็บเดียวเลยที่จะหลุด ขาด แยกจากกัน ไม่มีชิ้นส่วนใดเลยที่แยกตัวออกจากกัน พื้นรองเท้า กับตัวรองเท้า ยังคงเกาะกันสนิทติดแน่น ไม่มีวี่แววที่จะหลุดแยกออก แบบที่เรามักจะพบในรองเท้าปั่นแบรนด์อื่น ที่เมื่อผ่าน 3-4 ปี ไปแล้ว กาวที่ใช้ยึดส่วนต่างๆ จะเริ่มเสื่อมทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ แยกจากกัน แม้แต่พื้นรองเท้าที่สุดแข็งแกร่ง ก็แยกจากตัวรองเท้าได้เลย

ในส่วนของระบบรัดกระชับ ที่ซับซ้อน โยงใยภายใน ซึ่งทำให้รู้สึกน่าห่วง น่ากังวลในตอนที่ออกมานั้น ผ่านเวลามาแล้วกว่าครึ่งทศวรรษ มันได้พิสูจน์ตัวเองอย่างชัดเจนว่า มันทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมและยังทำหน้าที่นั้นได้อยู่ ความแน่นของระบบรัดที่ยังทำได้ดี กับ กลไกการหมุนของปุ่มหมุน (Boa) ที่ยังแน่น หมุนได้ราบเรียบ หมุนย้อนกลับได้ รวมถึงยังดึงสลักปลดล็อคได้อย่างดี ไม่มีอาการวืดวาด กระโดดข้ามสลักอันเป็นสัญญาณของอาการปุ่มใกล้หมดอายุ แถมบางเจ้า ดึงออก กดเข้า ผ่านไป 3-4 ปี ปุ่มแตก หักเอาคามืดดื้อๆ ก็เจอมาแล้ว ซึ่งต้องยกนิ้วให้กับ BONT CYCLING ที่จัดการโจทย์ยากๆ นี้ได้อยู่มือ

 

 

มารีวิวจุดแรกกันเลยครับสำหรับเรื่องของระบบการรัดของเส้นลวดโดยรอบ ตามปกติแล้ว รองเท้าจักรยานระดับเริ่มต้น จะมีระบบเส้นวดปรับกระชับเพียง 1 ชุด ร่วมกับตีนตุ๊กแกที่ช่วยรัดรองเท้าไว้ ในขณะที่รองเท้าปั่นจักรยานระดับสูงๆ จะมาพร้อมกับชุดลวดปรับกระชับ 2  ชุด ที่ช่วยรัดให้รองเท้าแนบแน่นกับเท้ามากที่สุด เพื่อการส่งกำลังที่สสมบูรณ์แบบ ชนิดไร้จุดโหว่ แต่ BONT HELIX มาพร้อมกับแนวคิดการออกแบบ แบบใหม่ โดยใช้ชุดกลไกลวดปรับกระชับเพียงชุดเดียว กับการเดินเส้นลวดพันรัดรอบรองเท้าเกือบทั้งหมด ไล่มาตั้งแต่ด้านหน้า จนถึงช่วงหลังเท้าด้านบน เมื่อหมุนตัวปรับความแน่น จะรั้งให้ลวดรัดกระชับกับเท้าเราได้อย่างแนบแน่นในทุกส่วน

ส่วนความหล่อภายนอกนั้น HELIX สวย หรู สมราคา ลายที่เฉี่ยวแต่ไม่กระโตกกระตากมากนัก  สีสันที่เราเลือกมาในแบบสีขาว ไม่ได้ขาววิ้งใสกระจ่างในยามปกติ ออกเป็นสีเทาๆ หม่นๆ มากกว่า สลับกับส่วนตกแต่งที่สะท้อนเรืองแสงได้ ในแบบเดียวกับเนื้อผ้าสะท้อนแสงที่อัดแน่นกับเนื้อวัสดุรองเท้าด้วยความร้อน ในที่มืด ทั้งตัวรองเท้าในส่วนที่เป็นสีเทาๆ จะสะท้อนเรืองแสงขึ้นมาเป็นสีขาวได้อย่างเด่นชัด ส่วนจุดๆ ที่เป็นนลายตกแต่ง จะสะท้อนแสงขึ้นมาสว่างเรืองกว่าเนื้อวัสดุ คล้ายๆ กับเอ็ฟเฟ็กรองเท้าที่ปล่อยแสงในตัวได้ในยามค่ำคืน เปรียบเทียบทำนองเดียวกับสีสะท้อนแสงที่โดนแบล็คไลท์ หรือ สีสะท้อนแสงที่ใช้ทาบนเส้นและป้ายจราจรบนถนนทางหลวง

เมื่อเวลาผ่านไป เนื้อวัสดุรองเท้าและลวดลายยี่ห้อ รวมถึง ชิ้นส่วนที่เป็นสีดำ จะลอกหลุดออกมาได้ตามอายุการใช้งาน ซึ่งในภาพทั้งหมดนี้คือสภาพของรองเท้าที่ผ่านมาแล้ว 6 ปี สิ่งที่เซอร์ไพรส์ (อีกแล้ว) ก็คือ จุดๆ สีขาวสะท้อนแสงที่น่าจะหลุดได้ง่ายมากนั้น กลับไม่มีการหลุดลอกออกมาเลย ราวกับว่ามันเป็นเนื้อเดียวกับตัวรองเท้า โอเคครับ สำหรับส่วนอื่นๆ ที่เป็นสีดำ ลวดลายตกแต่งและตัวหนังสือ ที่น่าจะใช้การพิมพ์และอัดด้วยความร้อน หลุด กร่อน ลอก ในแบบนี้ เราไม่แปลกใจ ถ้าไม่ใช่สีและลายของวัสดุแท้ๆ เป็นชิ้นๆ มาเย็บต่อกัน เราไม่เคยเห็นรองเท้าปั่นตัวไหนที่จะไม่มีการหลุด ลอก ร่อน แบบนี้มาก่อนอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ชิ้นส่วนยึดติดประกอบ และ ตะเข็บบนขอบ ลิ้น และ ส้นรองเท้า ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสียหาย หลุดออกจากกันเลย ข้อนี้ โดยรวมทำได้ยอดเยี่ยมในระดับชั้นแนวหน้าของรองเท้าปั่นจักรยาน ที่ออกจะเกินหน้าเกินตาชาวบ้านก็เป็นเรื่องของ รายละเอียดขอบงานในจุดต่างๆที่เป็นตะเข็บเย็บในส่วนบุวัสดุเพื่อความนุ่ม ที่มักจะพบความเสียหายตามอายุการใช้งานหลายๆ ปีของรองเท้าปั่นทั่วๆ ไป เราไม่พบวี่แววนี้ใน BONT HELIX  แม้แต่น้อย

BONT HELIX มีน้ำหนักรวม 260 กรัม หนักกว่า VAYOOR S นิดหน่อย (VAYPOR S หนัก 230 กรัม) จุดอยู่ในกลุ่มรองเท้าปั่นจักรยานที่มีน้ำหนักเบา แม้จะไม่ใช่กลุ่มที่เน้นเบาสุดๆ ลงไปถึงระดับ 2 ขีด แต่เทียบกับกลุ่มตลาดระดับกลางที่มักจะมีน้ำหนักราว 300  กรัมแล้ว BONT HELIX  ทำน้ำหนักได้น่าพอใจ ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้นกว่า VAYPOR S  ก็มาจากเนื้อวัสดุคาร์บอนที่มากขึ้นจากการทำช่องทางร้อยเส้นลวดรัดรอบเข้าไปตามโครงสร้างรองเท้า แต่เมื่อเทียบน้ำหนักกับความแข็งของกลุ่มรองเท้าจักรยานระดับกลางที่หนักกว่าพอสมควร พบว่า HELIX  มีความแกร่งและส่งกำลังได้ดีกว่ามาก

 

สรุป BONT HELIX คือรองเท้าปั่นจักรยานที่เหมาะสำหรับนักปั่นที่มองหาสมรรถนะดีเยี่ยม จากการออกแบบโครงสร้างและการอบเพื่อดัดให้มีรูปทรงพอดีกับเท้า ส่งกำลังด้วยความสติฟฟ์ที่สูงในระดับต้นๆ ระบบรัดกระชับที่รัดได้กระชับแต่เฉลี่ยแรงกระจายได้ทั่วเพื่อความสบายแต่ไม่หลวมจนเกินไป การออกแบบ สีสัน ลวดลาย เด่นสะดุดตาโดยเฉพาะตอนกลางคืน และ มีความทนทานของการตัดเย็บ ประกอบ ระบบกลไก มีความทนทานสูงที่สุดยี่ห้อหนึ่ง

Tag :: BontShoes
March 6, 2024 cyclinghub 0 Comment