ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่านี่คือบทความนั่งเทียนทั้งเพ แต่การนั่งเทียนนี้ พอจะมีเค้าลางมาจากแนวทางการเดินหมากที่เราเห็นมาของค่ายชุดขับเคลื่อน Sram ผสมกับการได้สัมภาษณ์พิเศษหลายๆครั้ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่เปิดเผยอะไรเลย แต่เราก็น่าจะพอเดาได้ว่า ในอนาคต เราจะได้เห็นอะไรจาก Sram ภายใต้นวัตกรรม eTap AXS

1.Force ไฟฟ้า มาแน่นอน
จากความสำเร็จของ shimano Ultegra Di2 ข้อนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาต้องส่งเอา Force eTap ออกมาสู่ตลาดอย่างเร็ววันนี้ ด้วยคุณสมบัติเดิมของสายผลิตภัณฑ์ Fore ที่ดูจะเหนือกว่า Ultegra อยู่นิดๆในแง่ของน้ำหนัก ก็เดาได้ว่า Force eTap จะต้องออกมาเบียดกับ Dura Ace Di2 ได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

2.Sram 11 จะจากไปในไม่ช้า
จำตอนที่พวกเขาออก Sram 22 ในช่วงหลายปีก่อนได้หรือไม่? ในตอนนั้นพวกเขาใช้เวลาไม่นานที่จะส่งเอา Red, Force, Rival ออกมาในรูปแบบ 11 เฟือง ทิ้งไว้เพียง Apex ที่ส่งประกอบรถสำเร็จเป็นหลัก (แถมมาในรูปแบบจานใบเดียว) ดังนั้นในรอบนี้ คงไม่นานเกินรอ เราจะได้เห็นเฟืองโหล ครบระดับราคาจาก Sram แน่นอน

3.จะยังคงรองรับริมเบรคอยู่อีกนาน
ถึงแม้ว่ากระแสดิสก์เบรคจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในรถระดับเรือธง แต่จากการขยับตัวของ Shimano และ Campagnolo ที่ยังคงให้การตอบรับความต้องการริมเบรคในรุ่นสูงสุด และการรองรับริมเบรคของ Red eTap AXS ที่เพิ่งออก ก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่าอย่างน้อยๆ สามปีนี้ เราจะยังมีชุดเกียร์รุ่นท็อปที่ใช้ริมเบรคให้ได้เห็นในตลาด

4.AXS จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของ Sram
ระบบอัตราทดใหม่ของ AXS จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของพวกเขา ตั้งแต่รถ่นบน ลงมาจนถึงรุ่นกลาง และในระยะยาวเราจะได้เห็นรุ่นล่างๆก็ใช้อัตราทดแบบใหม่นี้ เพราะมันมีแต่ข้อดี ไม่มีข้อเสียอะไรเลย ที่เหลือก็ต้องมาดูกันว่า ค่ายชุดขับฯอื่นๆจะตอบสนองอย่างไรกัน?

5.Force eTap น่าจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ของ Red ได้ครบ
Red eTap AXS มาพร้อมกับความสามารถในการปรับแต่งสิ่งต่างๆได้อย่างอิสระผ่านทางแอปพลิเคชั่น รวมถึงจานหน้า โซ่ และเฟืองที่เบาสุดๆ เดากันไม่ยากเลยว่า force eTap จะถูกถอดคุณสมบัติต่างๆออกไปไม่น้อย เพื่อให้สามารถทำราคาสู้กับตลาดตรงกลางของ Ultegra Di2 ได้โดยไม่ทำให้ Red eTap AXS ต้องตายไป แหงล่ะ ถ้ามันทำได้เหมือนกันหมดแต่ถูกกว่าเกือบครุ่ง ใครจะซื้อรุ่นท็อปล่ะครับ?

6.Rival eTap จะมาก่อน 105 Di2
ตลาดรอคอยการมาของ 105 Di2 มาเกือบๆสิบปีแล้ว ทาง Shimano น่าจะจับตา จดๆจ้องๆรอตลาดพร้อมอยู่ในเวลานี้ แต่นิสัยของ Sram พวกเขาไม่ใช่คนตามตลาด แผนในอนาคตของพวกเขาน่าจะมาพร้อมกับการมองไปที่ Rival ไฟฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อไหร่ที่พร้อม ก็จะส่งออกมาทันที ซึ่งก็น่าจะมาก่อน 105 Di2 ที่กั๊กไว้กลัว Ultegra Di2 ขายไม่ออก

7.ระบบ ๅ2 gฟือง จะไม่สามารถยำได้อีกต่อไป
ในตอนที่เปลี่ยนจาก 10 มาเป็น 11 ชิ้นส่วนต่างๆไม่น้อยของ Sram สามารถยำข้ามกันได้ไม่ยาก แต่คราวนี้ การก้าวเข้าสู่ 12 รับรองได้เลยว่า น้อกจากก้ามเบรค คุณน่าจะไม่เหลืออะไรเลยที่สามารถเก็บไว้ใช้ร่วมกันได้

8.Force eTap จะใช้ทุกๆอย่างไม่ต่างจาก Red eTap
คงไม่ฉลาดแน่ถ้า Sram จะออกแบตเตอรี่ใหม่ มอเตอร์ใหม่ เพียงเพื่อให้ Force eTap มีประสิทธิภาพด้อยลงไปกว่า Red อย่างชัดเจน แต่ตารมมาด้วยปัญหาการออกอะไหล่ และการสต็อคชิ้นส่วนของคนขาย ดังนั้น เชื่อได้เลยว่า จากเส้นทางที่พวกเขาเคยทำมา Force eTap จะทำงานได้ไม่ต่างจาก Red eTap ใช้มอเตอร์เดียวกัน แบตเตอรี่เดียวกัน การออกแบบเหมือนกัน แค่หนักกว่ากันสัก 2 ขีดเท่านั้น

9.Power Meter จะเป็นอุปกรณ์ปกติในไม่ช้า
การที่ Sram เป็นเจ้าของ Quarq ค่ายผู้ผลิตวัตต์เจ้าใหญ่ของอเมริกาเหนือ ทำให้พวกเขานำเอา Quarq มาใส่รวมอยู่ในชุดขับเคลื่อนไปด้วย (ไม่ต่างจาก Shimano ที่ออกจานวัตต์ของตนเอง) แต่เชื่อได้ว่าในไม่ช้า จะมีเวอร์ชั่นไม่แพงออกมาร่วมกับ Force รวมถึง Rival ในอนาคต นั่นก็ฉปลว่า วัตต์ จะกลายเป็นทางเลือกทันที่ที่คุณตัดสินใจเลือกชุดขับเคลื่อนและเพิ่มงบอีกไม่มากนัก ก็จะได้วัตต์มาครองอย่างไม่ต้องวุ่นวาย

10.Force ไฟฟ้า ของจะขาดตลาด!!
Sram ไม่ใช่ผู้ผลิตที่มีกำลังการผลิตมากมายอะไรนัก และกลยุทธในระยะหลังพวกเขาหันไปเน้นตลาดการส่งอะไหล่ประกอบรถสำเร็จมากขึ้นด้วย ดังนั้นชุดขับเคลื่อนเนื้อหอมอย่าง Force eTap ต้องถูกสั่งจากแบรนด์รถ และการขายปลีกในตัวแทนจำหน่ายต่างๆทั่วโลกแน่นอน และท้ายที่สุด มันก็จะ”ขาดตลาด” ส่งของกันไม่ทันแบบเมื่อตอนแรกที่ Red eTap ออกมาใหม่ๆ ที่มีเงินก็ไม่มีโอกาสจะได้ครอบครองเพราะของไม่มี รอบนี้ใครรออยู่ ต้องคิดเร็ว จ่ายไวนะครับ ไม่งั้นก็รอคิวกันยาวๆไป

ค่อยๆรอชมกันนะครับ ว่าการ Candle Sitting ของพวกเรา จะเป็นจริงอย่างไรบ้างหรือไม่ กี่ข้อ??

March 29, 2019 cyclinghub 0 Comment