คุณเคยเดินเข้าร้านจักรยาน หรือ งานจักรยานที่มีจักรยานวางเรียงรายเต็มไปหมด พร้อมกับความงุนงงหรือไม่ว่า แล้วจะเลือกคันไหน อย่างไรไปเสียที สิ่งที่เตรียมตัวมาก็แค่เลือกงบประมาณคร่าวๆในใจ มีสีและหน้าที่ตาที่ชื่นชอบ กับทำการบ้านเรื่องเสือหมอบมาอย่างคร่าวๆ แต่คนขายดก็เข้ามาดูแล แบบมีท่าที”ผู้เชี่ยวชาญ” ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจมากกับการเลือกซื้อจักรยานคันแรก แต่นั่นแหละครับ ผู้เชี่ยวชาญนี้เอง  ที่เข้ามาทำลายฝันที่จะปั่นให้ได้อย่างสนุกสนานไปเลย

เรื่องมันมีอยู่ว่า ในงานจักรยานงานหนึ่ง และบูธหนึ่ง ที่ยกเอาจักรยานรุ่นที่คงค้างอยู่ในคลังมาประกอบลดล้างสต็อคเทราคากันอย่างสุดติ่งกระดิ่งแมวสะท้านใจกันไปเลยนั่นแหละครับ เมื่อมือใหม่ก้าวอาดๆเข้าไปอย่างมุ่งมั่นว่า วันนี้แหละ จะกลับบ้านไปพร้อมยานคันแรกที่จะเอาไปปั่นให้สนุกสนั่นลั่นถนนเสียที แต่ก็ต้องชะงักอยู่ตรงนั้น เพราะจักรยานมันกองดารดาษเต็มเบื้องหน้าไปหมด เอาล่ะครับ ตอนนี้ ในหัวของมือใหม่ก็ต้องงัดเอาตารางช่วยตัดใจมากาง ซึ่งแน่นอนว่า มันก็จะเหลือตัวเลือกที่ใช่ในใจเพียงไม่กี่คันเท่านั้นเอง สำหรับคันที่เรากำลังนำมาเล่าในวันนี้ เป็น เฟรมคาร์บอน รุ่นรอง สายแอโร่ฯ ที่เรียกว่า สปินท์เตอร์ร่างกอรัลล่าใช้ยกหน้าเส้นกระจายมาในแกรนด์ทัวร์ไม่กี่ปีมานี้เอง ประกอบมากับชดขับเคลื่อนสุดคุ้ม ทั้งคัน ในราคากระชากใจจนขายไปเกือบหมดสิ้น ประกอบมาวางให้ดูกันไม่หวาดไม่ไหวเลย ทำให้ เบื้องหน้านั้น ไม่มีรถรุ่นนี้อยู่ให้เห็นตัวเป็นๆ คนขายจึงให้คำแนะนำช่วยเหลือว่า ลองนำรุ่นนี้มาเทียบไซส์ก่อน เพราะขนาดพอๆกัน

 

ปัญหามันเกิดจาก ความซวยที่ดันไปตกลงตรงกลางระหว่างสองไซส์ไงครับ ทีนี้ จะเลือกไซส์ไหนมันก็ต้องชั่งใจกันให้หนัก ใหญ่ขี่สบายแต่ไม่มันส์ เล็กสนุกสะใจแต่ต้องมั่นใจว่าขี่ได้และเลือกชิ้นส่วนมาให้พอดีตั้งแต่แรก รถที่นำมาเทียบนั้นคือ รถสายพันธุ์ “เอนดูรานซ์” ครับ คนละรุ่น คนละซีรีส์ ซึ่งแน่นอนว่ารายละเอียดย่อมแตกต่างกัน แต่เพื่อเช็คการยืนคร่อมคร่าวๆก็คงไม่เป็นไร

แต่แล้ว ก็ถึงไอเดียว่า ขอนำจักรยานขึ้นเทรนเนอร์ไปเลยดีกว่า คร่อมอย่างเดียวอาจจะกะสิ่งต่างๆได้ยาก แถมเจ้านี้เขานำเข้าเทรนเนอร์มาออกบูธเสียด้วย มีวางอยู่หลายตัว พนักงานก็ช่วยเหลืออย่างน่ารัก ในขณะที่ท่าน”ผู้เชี่ยวชาญ” ยืนคุมคอยส่องคอยมองท่าทีการปั่นอยู่ ให้คำแนะนำราวกับเป็นโปรฯเคยไปย่ำพิเรนีสมาแล้ว เรียกว่าข่มกันตั้งแต่น้ำเสียงไปจนประโยคอวดอ้างสรรพคุณว่าตนเองขี่ก้มได้มากสบายๆ คุณจะก้มได้หรือไม่ ทำนองนั้นเลย ยิ่งเมื่อสอบถามแล้ว มือใหม่ของเราวันนี้ ทดลองปั่นจักรยานเพื่อนมาได้ไม่ถึงสัปดาห์ด้วยแล้ว มาดราศีโปรยิ่งจับ เรียกว่าต่อไปนี้ คำพูดต่างๆจากปาก ศักดิ์สิทธิไม่แพ้น้ำมนต์เกจิที่สาดลงไปต้องร้องกรี๊ดครวญครางด้วยความอยากได้ทันที

 

“รถสองรุ่นนี้ องศาเหมือนกันแหละ เทียบได้เลยไม่ต้องลังเล”

…คุณคิดว่า รถสายซิ่งแอโร่ฯจัดๆ กับรถสายเอนดูรานซ์ จะมีองศาตรงกันหรือไม่? แน่นอนครับว่ามันอาจเกิดขึ้นได้ แต่โดยมากแล้ว คันแรกจะถูกออกแบบมาให้ก้มต่ำ ยืดยาว เพื่อการขี่ที่ดุดันที่สุด และคันหลัง จะออกแบบองศาให้ผู้นั่งมีท่าขี่ที่ไม่ก้ม ไม่เอื้อมเกินไปครับ ดังนั้น จากข้อมูลเทียบแล้ว เราพบว่า ในไซส์ XS  ค่า Effective Top-Tube ของทั้งสองรุ่นได้แก่ 513 และ 510 เช็คเพียงแค่นี้ ก็เดาได้ไม่ยากแล้วครับว่าองศาคงไม่ตรงกันอย่างแน่นอน มาถึงจุดนี้ ทางผู้ขายเนี่ย เขาใจดีครับเนื่องจากเป็นการนำเฟรมค้างสต็อคมาประกอบรถขายโปรโมชั่นกัน ดังนั้น สามารถเลือกประกอบสเต็มได้ตามต้องการตั้งแต่แรกเลย บ๊ะ ดีขนาดนี้ จึงต้องเลือกกันเสียหน่อยแล้ว เพราะปัญหาของคนคร่อมไซส์นี่แหละ จะไปตกที่สเต็มกันเสียมาก หากได้สเต็มที่เหมาะสมมา รับรองว่า ต่อไปการฟิตติ้งทำได้ไม่ยาก แต่ถ้าผิดมาตั้งแต่แรก  ก็เตรียมใจเสียเงินซื้ออะไหล่ใส่ใหม่กันได้เลย

เป็นคุณ คุณจะเล็งแล้ว เล็งอีกหรือไม่? แน่นอนครับ ต้องัดเอาวิชาทั้งหมดที่พอจะรู้มา เพื่อดูว่าจะขี่ได้หรือไม่ อย่างไร

แต่ระหว่างนั้น “ผู้เชี่ยวชาญ” คนเดิมก็คอยพูดมาเรื่อยๆครับ เรื่องของการก้ม การเอื้อม ระยะมันเหมือนกัน ตัดสินใจเลยว่าจะเอาไซส์ไหน ซึ่งด้วยเหตุผลว่า ระยะมันไม่เหมือนกันนี่ไงครับ ที่คนซื้อยังคาใจว่า แล้วอีกคันมันจะเป็นอย่างไร ท่อนอนต่าง ท่อคอต่าง ระยะ Reach กับ Stack จะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้เปลี่ยนขนาดสเต็มกันได้เลยทีเดียว แต่ทานผู้เชี่ยวชาญก็ยืนยันมากว่า ระยะสองคันนี้มันเท่ากันแม้จะคนละรุ่น แถมยังสำทับว่า เลือกได้ไม่ยากเลย ถ้าก้มได้ก็มาไซส์เล็ก ถ้าก้มไม่ไหวก็ขี่ไซส์ใหญ่ *สองไซส์ท่อมันก็ต่างกัน 2 นิ้ว* แล้วชี้ไปที่ท่อนอนครับ

 

จุดนี้ไม่ต้องเข้าใจการออกแบบจักรยานแต่หากพอจะศึกษามาบ้างท่านจะรู้ว่า 2 นิ้วนั้นมันคือขนาด”เทียบเคียง” ท่อนั่งที่ถูกใช้มาแต่โบราณ ในปัจจุบันนี้ เราไม่เทียบขนาดจักรยานจากท่อนั่งกันอีกแล้ว เราเทียบที่ความยาวท่อนอน ไปจนถึงการดูระยะ Reach และ Stack ของเฟรมนั้นๆ ที่สำคัญ การชี้ไปที่ท่อนอนแล้วบอกว่าสองขนาดต่างกัน 2 นิ้ว ช่างไม่สอดคล้องกับคามเป็นจริงของโลกเลย จุดนี้ล่ะครับ ถ้าคุณเป็นมือใหม่จริงๆ คุณจะได้อะไรกลับบ้านไป? เล่นเสกน้ำมนต์มาจากน้ำลายแบบนี้ ไม่ต่างจากทรงเจ้าเถื่อนที่พอจะรู้วิชาแล้วมานั่งหมายขายของ

ยังครับ ยังไม่จบ

ยังมีต่ออีกเรื่อง เมื่อฝ่ายคนซื้อ ยืนยันว่า ไซส์มันไม่เหมือนเพราะได้เปิดเช็คในอินเตอร์เน็ทแล้ว (จริงๆกูเกิ้ลนิดเดียวก็เจอ) พบว่า Reach กับ Stack มันไม่เท่ากัน ต้องขอเวลาเล็งและคำนวนกันหน่อย

 

“Stack มันก็แค่ท่อคอ” ท่านผู้เชี่ยวชาญเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดที่เจอคนซื้อเรื่องมาก ว่าแล้วก็ชี้นิ้วประกอบการอธิบายไปที่ท่อคอของรถ

มาถึงตรงนี้ขออธิบายก่อนนะครับ Stack คือ ความสูงของเฟรมวัดจากกุ่งกลางกะโหลก ตรงขึ้นมาถึงแนวจุดท่อคอ มันจะส่งผลโดยตรงกับความก้มของคนขี่ (ส่วน Reach คือการวัดแบบเดียวกันไปในแนวนอน เพื่อดูว่าเฟรมนี้เอื้อมขนาดไหน) เรียกง่ายๆครับว่า กึ่งกลางกะโหลกไปยังจุดที่ต่อกับสเต็มเนี่ย เฟรมนี้สูงเท่าไหร่ ท่อคอยาวหรือสั้นไม่ได้แปลว่า Stack จะมากหรือน้อย ปัจจัยมันอยู่ที่ BB Drap ด้วย เอาเป็นว่ามันจะยุ่งยากครับ ที่แน่ๆคือ Stack ไม่ใช่ความยาวท่อคออย่างที่ร่างทรงจำแลงร่ายมาแน่นอน

มาถึงจุดนี้ คงไม่มีใครที่รู้ความจริงแล้วอยากจะซื้อของกับคนๆ นี้แล้วล่ะครับ ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือ การประกอบรถที่มีในสต็อคนั่นแหละมาให้ทดลองคร่อม ทดลองขึ้นเทรนเนอร์ดู โดยสั่งให้ใส่สเต็มที่คาดคะเนมาเลย ไม่ต้องประกอบเสร็จสมบูรณ์ก็ได้ สิ่งที่เราต้องการคือการเช็คระยะก้มและเอื้อมของร่างกาย

 

แล้วทีมงานขายก็เริ่มงอแงครับ เนื่องจากคิวยาว รถขายดีเหลือเกินตลอดงานแสดงสินค้า ขายออกไปจนประกอบมาไม่ทัน ท่านผู้เชี่ยวชาญก็พยายามปิดจ็อบให้ได้ว่าเลือกมาเลย ไม่เป็นไรหรอกต่างกันนิดเดียวไม่กี่มิลฯเท่านั้น ยืนยันว่าจะไม่ประกอบมาให้ดูตัวเป็นๆกัน จนเริ่มมตึงเครียดถกเถียงกัน ยังดีนะครับที่ทั้งบริษัทมีปลาเน่าโง่ๆอยู่ตัวเดียว พนักงานคนอื่นให้ความร่วมมือกันอย่างดีช่วยหาทางออกที่สุดท้ายก็ทำให้จบลงด้วยดีไปได้ แต่แค่นั้น ความอยากซื้อก็ถูกทุบทำลายลงไปหมดแล้วครับเพราะ มีเสียงผู้เชี่ยวชาญบ่นสวนจากที่ได้ยินคนซื้อบอกว่า “เนี่ยจะซื้อแล้ว ขอทางออกหน่อย ถ้าให้ทางออกไม่ได้จะไม่ซื้อ” ….สวนเบาๆมาให้พอได้ยินว่า “ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อสิ”

 

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการซื้อหรือไม่ซื้อครับ ท่านลองมองดูช่องโหว่ที่เกิดขึ้นตลอดระยะทางที่ผ่านมาของเรื่องราวนี้ จุดที่อาจเกิดปัญหาผิดพลาด จุดที่ให้ข้อมูลผิด จุดที่แถเถียงไปเรื่อยแบบไร้ความเข้าใจที่แท้จริง ตจุดที่ทำให้คนๆหนึ่งอาจได้จักรยานที่ไม่เหมาะสม และทำให้การปั่นของเขาไม่มีความสุขจนไม่สนุกพอจะออกมาตากแดด ตากลมได้อย่างต่อเนื่องและหายไปจากโลกจักรยาน ที่เพิ่งฟื้นกลับมาคึกคักได้ไม่นาน

คุณว่า คนๆหนึ่งจะควักเงินมาซื้อจักยานสักคัน ต้องคิดอะไรบ้าง? แต่ตอนมันจะเลิกปั่น มันไม่ต้องคิด!!

สิ่งที่หากคุณเป็นคนที่รักจักรยาน และอยู่ในสังคมที่เกี่ยวของโดยตรงกับอุตสาหกรรมจักรยานขนาดนี้ต้องคิดคือ คุณต้องมั่นใจว่า ทำในสิ่งที่คนปั่นจะมีความสุข เพราะหากเขามีความสุขคุณจะอยู่ได้ ถ้าคนปั่นไม่สนุก ก็เลิกปั่นไป แล้วสุดท้ายคุณจะทำมาหากินต่อไปอย่างไร นี่คือเพียงแค่ความคิดด้านเห็นแก่ตัวรอดนะครับ แต่หากคุณมีน้ำจิตน้ำใจเพื่อนมนุษย์อยู่ มีความเป็นคนเพียงพอ คุณจะมอบ”สิ่งที่ดี” ให้กับคนที่กำลังต้องการคำตอบ ไม่ใช่ “มั่ว” กับ “แถ” แบบนี้

สำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งแน่นอนว่า ขึ้นไประดับหัวหน้า ระดับบริหา คุณไม่ต้องการให้สิ่งแบบนี้เกิดขึ้นในองค์กรของคุณแน่นอน ผมฝากตรงนี้เลยครับว่า คนที่จะมาขายของ ควรฝึกและได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี อย่าปล่อยให้มามั่วแบบนี้ ถ้าคนที่มาซื้อเขามีความรู้ก็จะรู้สึกว่าบริษัทคุณชุ่ย ปล่อยให้คนแบบนี้มาให้ข้อมูลผิดๆได้อย่างไร หากคนที่มาซื้อไม่รู้เรื่องก็ขายง่ายๆกลับบ้านไป ฝากไว้ที่บุญกับกรรม ว่าจะซวยเจอปัญหาอะไรหรือไม่กับจักรยานที่ได้ไป ผลงานของพนักงานมั่วๆของคุณ

 

ผมไม่บอกนะครับว่ายี่ห้ออะไร แต่ในบทความ ใครจะเดาออกบ้างก็ลองคอมเม้นต์กันครับ

ฝากผู้บริหารทั้งรุ่นพ่อ และรุ่นลูกที่เข้ามาทำ คุณเสียเงินสร้างภาพของแบรนด์ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์สาวสวยสักกี่คน มันก็ได้เพียงภาพเท่านั้น แต่ประสบการณ์ในการเข้าถึงของผู้ซื้อ และความน่าเชื่อถือนั้นสำคัญยิ่งกว่า เพราะนี่คือสิ่งที่จะอยู่ยาวๆ ผมบอกได้แค่ว่า สำหรับมือใหม่กลุ่มหนึ่ง คงขยาดจักรยานแบรนด์ที่คุณนำเข้ามาแล้วล่ะครับ

June 26, 2019 cyclinghub 0 Comment