จบกันไปแล้วกับการแข่งขัน TDF2021  เต็มไปด้วยความทรงจำและความประทับใจมากมายในเวลาตลอดทุกสเตจที่ผ่านมา ซึ่งในช็อตเด็ดเหล่านั้นนั่นเอง พระเอกของเราก็คงไม่พ้นบรรดานักปั่นชั้นเทพที่วาดลวดลายเอาไว้ในปีนี้ ซึ่ง ในโอกาสนี้นี่เอง ที่เราจะขอจัด”ดรีมทีม” ในใจของเรา รวมจากพระเอกนักปั่นที่เข้าตา รวมถึง โดนใจของ Cycling Hub Thailand  ดูซิว่า จะมโนเอาใครมารวมกันได้บ้าง

ช้าก่อนครับ การจะเอานักปั่นมา 8 ชื่อนั้น มันไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับแฟนพันธุ์แท้จักรยาน ดังนั้น ต้องจัดกรอบให้ดรีมทีมทีมนี้กันสักหน่อยครับ โดยวางเป้าหมายว่า ทีมที่เราจะจัดนั้น เป้าหมายคือ การคว้าแชมป์ TDF ในฝัน รวมึง สามารถเก็บสเตจให้ได้มากที่สุดด้วย ที่สำคัญที่สุด พวกเขาทั้งหมด ต้องสามารถขี่ได้ใจสปอนเซอร์และแฟนๆอย่างยอดเยี่ยม  ซึ่งเราก็จะแบ่งนักปั่นที่รับหน้าที่ต่างๆไปตามแต่ละส่วนดังนี้

  • ตัววางเสื้อเหลือง สองตำแหน่ง
  • สปรินท์เตอร์ สองตำแหน่ง
  • หัวลากไต่เขา สองตำแหน่ง
  • สารพัดประโยชน์ สองตำแหน่ง

ชมในรูปแบบคลิป

ซึ่งแผนการจัดการของเราคือ มีตัววางของทีมสองคน ที่สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งหมดของการแข่งขัน และใช้เป็นพระเอกพระรองเมื่อการแข่งขันงวดเข้าสู่ช่วงเข้มข้น โดยมีนักไต่เขาทำหน้าที่สนับสนุนบนเขาอีกสองตำแหน่ง แน่นอนว่างานหลักของแพะสองตนนี้คือ การลากความเร็วสุงบนเขายาวๆ ทอนกำลังคู่แข่งและคุมกลุ่มให้อยู่มือ โดยประสานกำลังกับนักปั่นสารพัดประโยชน์อีกสองคน ซึ่งนอกจากช่วยทีมลากในสถานการณ์ปกติ ไล่เก็บกลุ่มหนีแล้ว ยังต้องสามารถหนีไปกับกลุ่มเพื่อทำเกมส์พักให้ทีมได้อีกด้วย ตลอดจนในสัปดาห์แรกๆ สามารถหนีไปหมายสอยสเตจกันได้เลยด้วย ส่วนบนทางราบ ทั้งสองชีวิตนี้จะกลายเป็นจอมมารดับฝันกลุ่มหนี ช่วยทีมลากไปรวบ เพื่อเก็บสปรินท์หน้าเส้น โดยที่มีหัวลากจรวดลีดเอาท์หนึ่งคน ส่งให้สปรินท์เตอร์ไปเอาสเตจมาได้ในช่วงสุดท้าย

 

เอาล่ะครับ เรามาดูกันเลยกับ งานมโนล้วนๆของผมในวันนี้ และ อย่าพลาดอ่านท่อนสุดท้ายนะครับ เพราะ ทีมนี้ เดี๋ยวจะมีงานนั่งเทียนว่าเมื่อลงแข่งแล้วจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ฝันนี้จะสวยหรู หรือ เละเทะไม่เป็นท่า ต้องมารับชมกันเป็นความบันเทิงควันหลง TDF กัน

ทาเดจ์ โพกาชาร์

ถ้าผมจัดเลือกกัปตันทีม ที่ขี่แบบวางใจได้ มีดีพอที่จะขึ้นมานำในช่วงแรก สามารถไต่เขาได้โดดเด่น แถมขี่เดี่ยวได้สุดยอด วินาทีนี้ ถ้าไม่เอาเจ้าหนูนี่มาก็คงเมาหรือบ้าแล้วล่ะครับ ที่สำคัญ ลีลาการขี่ การเปิดโอกาสให้ทีมอื่นๆได้เล่นเกมส์ สร้างความบันเทิงให้คนดู แบบนี้ ต่อให้สุดท้ายจะวืดแชมป์ แต่รับรองได้ว่า สปอนเซอร์ต้องยังพอใจในเกมส์ที่ทีมทำได้อย่างแน่นอน แต่บอกได้เลยครับว่า เป้าหมายของเรามีเพียงเป้าเดียวเท่านั้น คือ แชมป์!!

โยนัส วิงเกอกอร์

ปกติเมื่อวางตัวกัปตันมาแล้ว หลายๆทีมจะวางให้มีไม้รองอีกคนที่สามารถรับบทบาทแทนได้ในยามวิกฤติ เช่น หากตัวหลักของทีเกิดอุบัติเหตุล้ม เจ็บจนแข่งต่อไม่ได้ ทีมก็ยังมีดาบที่สอง รวมถึงเกมส์บนเขาที่จะกลายเป็นการกดดันคู่แข่งทีมอื่น เมื่อเรามีสองตัวแกร่งที่ทำเวลาอยู่ในต้นตาราง เปิดเกมส์รุกได้อย่างหลากหลาย นี่คือความได้เปรียบ และในปีนี้ ต้องบอกว่า เจ้าหนูโยนัส จัดเป็นคนหนึ่งที่ขี่ได้บู๊ที่สุด เรียกว่าขี่แบบไม่กลัวหมด ซึ่งสำหรับสไตล์ทำทีมแบบผม ผมอยากได้ไม้สองแบบนี้แหละครับ

เดวิด โกดู

ถ้าจะใช้งานนักไต่เขาที่ขี่แบบคงที่คงวา รักษาเพซได้นิ่ง แน่น ลากยาวได้ทน อึด ผมขอยกให้กับการซื้อกัปตันทีม เอฟดีเจฯ คนนี้มาทำหน้าที่ครับ เชื่อว่า เมื่อรับไม้มาจากตีนเขาแล้ว เดินเครื่องลากแช่ยาวๆแม้ว่าจะไม่ใช่เพซระดับสอยเอสคู่แข่งร่วง แต่ มันแรงพอที่จะหั่นเปโลตองให้เหลือแค่ครึ่งเดียว ทอนทีมอื่นได้ครึ่งทีมอย่างแน่นอน ส่วนกลุ่มหนีด้านหน้า ถ้าไม่แข็งจริง ไม่ใช่สายแพะจริง รับรองว่า โกดู จะช่วยทีมเราไล่เก็บได้ในเวลาไม่นานครับ

ราฟาล ไมจ์กา

สุดยอดหัวรถจักรจอมดุของปีนี้ ไม่น่าใช่ใครอื่น จากผลงานลากระห่ำจนเหลือสิบกว่าคน ไล่เก็บคู่แข่งตายเรียบ แถมส่งจังหวะดันเพซต่อให้เอสเรายกหนีได้ต่อทันที นี่คือหัวลากบนเขาคนสุดท้ายที่โดดเด่นเป็นที่สุดสำหรับผม และเหมาะมากจะมารับไม้ต่อจาก เดวิด โกดู ที่ถนัดขี่เพซนิ่งๆยาวๆต่อกันทั้งสองคน และรายชื่อของ 4 ขุนพลบนเขาของเราแบบนี้ เชื่อขนมได้เลยว่า งานแพะ ไม่น่าพลาดแบบวางใจ

ไมเคิล แม็ทธิวส์

ผมชั่งใจกับการเลือกสปรินท์เตอร์จบทางราบของทีมเรามากครับ ใจหนึ่งก็อยากได้ คาเวนดิช มาร่วม อย่างที่หลายๆท่านคิดไว้ แต่เมื่อมานั่งดูการจัดทีมดีๆแล้ว พบว่า คาเวนดิช ต้องการทรัพยากรบุคคลไปหนุนมากเกินไป ผมต้องการสปรินท์เตอร์ที่ส่งคนไปช่วยไม่กี่คนก็สามารถไปเก็บแต้มมาได้ แม้จะไม่สามารถได้ผลงานสเตจมาเลยก็ตาม แต่ทำให้ทีมได้มีโอกาสในการขึ้นเวทีรับรางวัลจุดสปรินท์ประจำวัน และเมื่อมองมาแบบนั้น คนนี้ทำผลงานแน่นอนที่สุดในการแข่งปีนี้ครับ แม้จะไม่ได้สเตจมาครองเลย แต่เขาสามารถทำแต้มไล่ตาม คาเวนดิชมาได้ชนิดจ่อหลังกันติดๆ และเดี๋ยวเค้าจะเป็นคีย์แมนให้เราได้พื้นที่สื่อแน่นอนครับ ลองอ่านให้จบช่วงสุดท้ายกันครับ

ซันนี โคลเบรลลี

หัวลากคนสุดท้ายช่วง 500 เมตร แน่นอนว่า ไม่ใช่สปรินท์เตอร์ที่มีท็อปสปีดสูงสุดหรือมีอัตราเร่งสูงสุด แต่สามารถรักษาความเร็วระดับสูงมากไว้ได้ 20-30 วินาที งานนี้ผมขอมอบให้ โคลเบรลลี ครับ กับการเปิดสปรินท์ระยะยาวๆของเขา (และโดนรวบคืน) ที่สำคัญ ในทุกๆสถานการณ์สปรินท์ เขาสามารถเข้ามาในอันดับที่ยอดเยี่ยมได้ โดยที่แทบไม่ได้อาศัยทีมอุ้มมาวางเลย นั่นแปลว่า ทั้งตำแหน่งและความเร็ว เขาอยู่ในระดับเวิลด์คลาส และเหมาะมากที่จะมาเป็นแท่นยิงให้กับตัวปิดเกมส์ที่คมๆ แน่นอนสักคน

จูเลียน อลาฟิลลิปป์

นักปั่นที่ลากทางราบได้อย่างยาวนาน หนักแน่น ไล่เก็บกลุ่มหนีได้อย่างวางใจได้ แถมยังไต่เขาช่วยเสริมในระดับเขาไม่ชันมาก พร้อมทั้ง ทำเกมส์หนีได้ชัวร์ๆ แล้วไปลุ้นหน้างานเอาในวันทางยาว เสริมทัพได้ทั้งทางราบ บนเขา และรุกได้เพื่อหนียาวๆให้ทีมได้พักเกมส์ คงต้องยกให้แชมป์โลกคนนี้ครับ กับภาพการทำงานตั้งแต่พระเอก ยันพ่อบ้านของทีม แถมยังเก๋าเกมส์ แม่นต่ำแหน่ง เป๊ะจังหวะอีกด้วย มี อลาฟิลลิปป์ มาหนึ่งคน ช่วยงานทีมได้เยอะอย่างแน่นอนครับ

โวท วานเอิร์ท

แต่ถ้าจะหานักปั่นที่เน้นเป็นตัวฟรี มีโอกาสก็ไปก่อนได้เลย ไปวางเกมมส์กลุ่มหนี ที่ใช้งานได้ทั้งทางราบและภูเขา ขี่ไกลๆได้แบบอึดๆ ปีนี้ คงยากที่จะปฏิเสะครับว่า ขุนพลแบบ”ครบเครื่อง” ไม่มีใครเกินคนนี้แล้ว ข้อดีที่นำมาร่วมทีมนอกจากความแน่นอนของการทำเกมส์รุก ในวันที่เขาทำเกมส์รับลากให้ทีมบนเขา ยังสามารถลากได้ชนิดน้องๆสายไต่เขามืออาชีพ  สมาชิกสายสารพัดประโยชน์สองคนในตำแหน่งนี้ น่าจะเป็นตัวช่วยทีมได้ในทุกเกมส์ แม้แต่ พลิกขึ้นมาเก็บสเตจหากทีมเกิดโบ๋ผลงานในความซวยก็ยังทำได้

 

เอลกซิส ลุตเชนโก (สำรอง)

ตำแหน่งนี้ ขอนำมาเป็นตัวสำรองในการจัดทีมครับ หากเกิดอะไรขึ้นกับครสักคน เราสามรถเอาลุตเชนโก มาใส่เพื่อเสริมและปรับแผนของทีมได้ทันที เช่นถ้าตัววางเราเกิดท้องเสียรุนแรงแข่งไม่ได้ เราสามารถเอาลุตเชนโก มาเป็นมือรองดาบสองบนเขาได้ หรือจะนำไปใช้งานเป็นหัวลากก็ยังพอไหว ประสบการณ์ บวกความคมของเขา มีมากพอที่จะไปกับกลุ่มหนีได้ด้วย เรียกว่า สายเวลารวมที่เล่นเกมส์หนี เป็นตัวสอดแทรกเกมส์ที่ดี แม้ปีนี้จะไม่เห็นมาออกฤทธิ์อะไรเลยแต่ เหนียวอยู่ในกลุ่มเสื้อเหลืองมาเกือบตลอด ขี่ไทม์ไทรก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร

ริทชี พอร์ต

จริงๆดีกรีของเขา เอาข้นไปเป็นตัววางดาบสองของทีมยังได้ หรือจะผนึกกำลังไปเป็นหัวลากสายเขาก็ยังไม่หวั่น แต่เพราะส่วนผสมของทีมตามโจทย์ที่ว่ามา  จึงนำเขามาวางเป็นตัวสำรองเอาไว้ครับ เช่นเดียวกับลุตเชนโก ที่หากตัวหลักแปดคนแรกมีอันต้องเริ่มแข่งไม่ได้ เราสามารถใส่ พอร์ต ลงไปแทนได้ทันที อุดได้ในหลายหน้าที่ หลายตำแหน่ง

 

 

แผนการแข่งของทีมในฝันนี้ เรียบง่ายครับ ช่วงสัปดาห์แรก เราจะเน้นการสนับสนุน แม็ทธิวส์ ไปเก็บแต้มสปรินท์ โดยใช้งาน โคลเบรลลี ช่วยเป็นหัวาก พร้อมส่งตัวสารพัดประโยชน์ช่วยลากไปวางช่วงชิงแต้ม หรือส่งคนหนึ่งหนีออกไปกับกลุ่มหน้า ทำการบล็อคแต้มไว้ แล้วเอา แมทะิวส์ เก็บอันดับหน้าเส้น เป้าหมายจริงๆคือ การใส่เสื้อเขียวในสัปดาห์แรกๆนั่นเอง ในขณะที่ ตัววางของเราทั้งสองตัว ก็แค่เกาะกลุ่มประคองไปเรื่อยๆ ด้วยความแข็งแกร่งของนักปั่นระดับในฝัน รับรองได้ว่าในสัปดาห์แรกเราจะทำผลงานได้โดดเด่น เผลอๆ จะได้สเตจมาจากการหนีออกไปมาครองได้ด้วย และเมื่อเข้าสู่ไทม์ไทรอัลครั้งแรก ทีมจะขึ้นมาเป็นกลุ่มหัวตารางได้ทันทีสองตำแหน่ง และจากนี้ไ เกมส์จะแตกต่างจากที่เราเห็นในปีนี้

พระเอกสองคน จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญของความแตกต่างจากโลกที่เป็นจริงครับ เพราะ แน่นอนว่า ตัวขุนพลทีมจะทำหน้าที่ได้อย่างที่เห็นในการแข่งขัน แต่สุดท้ายแล้ว เราไม่น่าเห็นภวพ วิงเกอกอร์ ลากให้ โพกาชาร์ แต่เราจะได้เห็นภาพที่ทั้งสองเป็นตัวฟรีในกลุ่มเสื้อผู้นำ สลับกันเล่นงานคู่แข่งอย่างสนุกสนาน  คู่แข่งจะมีน้อยกว่าที่เห็นในชีวิตจริงมาก เพราะเจอเพซของ ไมจ์กา และ  โกดู เข้าไป น่าจะเหลือจริงๆก็แค่ระดับ กาลาปาซ หรือ อูราน นั่นแหละครับ และเนื่องจากทั้ง โพกาชาร์ และ วิงเกอกอร์ ดันอยู่ในรุ่นอายุเดียวกันด้วย ผมเชื่อว่า เราจะพบดราม่า “แย่งซีน” กันเองในทีมอย่างแน่นอน ทีนี้แหละ สื่อทั่วดลกก็จะจ้องมองมาที่ทีมเรา  งานนี้จะออกมาแพ้หรือชนะ ก็ได้พื้นที่ข่าวอยู่ดี เอาเป็นว่า ใครไม่รุ่ง จบปีนี้ ไม่ต่อสัญญา ปล่อยไปซะ ก็พอครับ เหี้ยมๆกันหน่อย เพราะโลกมันโหดร้าย

และอีกความโหดร้ายที่ทีมนี้จะเป็นคือ ในสัปดาห์ที่สาม บนเทือกเขาพีเรนีสอันสูงชัน เราจะเสียสมาชิกทีมไปแน่นอนอย่างน้อย 1 คน นั่นคือสปรินท์เตอร์ของทีมนั่นเอง เพราะ จากรายชื่อและเกมส์การแข่งขัน เราไม่สามารถส่งคนลงไปอุ้มสปรินท์เตอร์มาได้ และเชื่อว่า เราจะเสียเสื้อเขียวของเราไปครับ หากไม่มีคนคอยอึ้มข้ามเขามา โอกาสที่แม็ทธิวส์ จะขี่ไม่ทันตัดเวลามีสูงมาก ในขณะที่ โคลเบรลลี น่าจะยังพอเอาตัวรอดมาได้  แต่เมื่อมาถึงปารีส สุดท้าย โคลเบรลลี ก็จะกลายเป็นหัวลากให้กับ วานเอิร์ท แทนนั่นเอง เพราะ ตลอดทาง วานเอิร์ท จะไม่สามารถออกไปไล่ล่าสเตจได้อย่างในชีวิตจริงครับ เมื่อขึ้นเขา วานเอิร์ท จะถูกส่งหนีออกไปกับกลุ่มก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาต้องไปรอที่จุดนัดพบ เพื่อช่วยให้ตัววางไปต่อในเกมส์นั่นเอง

ทีมนี้ แม้จะเต็มไปด้วยดาราดังจากปีนี้ แต่นี่ไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์แบบในการแข่งครับ  อย่างที่เราได้เห็นว่า ทีมยูเออีฯ ในชีวิตจริง ใช้งานนักปั่นหลัก 4 คนที่เป็นหัวลากอย่างสมานสามัคคี ทำหน้าที่กับเกมส์เวลารวมอย่างเดียวจนโพกาชาร์ทำเวลานำคู่แข่งได้มากมาย และวางเกมส์ที่ชัดเจนมาก เทียบกับการจัดดรีมทีมของเราในครั้งนี้ ถ้าสมมุติต้องมาสู้กันจริงๆ ทีมนี้น่าจะโดนยูเออีฯ หรือแม้แต่ อินิออสฯ ยำเละได้ครับ สไตล์การจัดทีมแบบนี้ ไปละม้ายแนวทางของ ยัมโบ-วิสมา ที่เก็บผลงานได้หลากหลาย แต่ไม่ปังไม่สุดไปสักทาง ซึ่งสุดท้าย ดรีมทีม ทีมนี้ จะไปพึ่งพาเอาความสามารถเฉพาะตัวของ โพกาชาร์ หรือ วิงเกอกอร์ นั่นแหละครับ ถึงจะประสบความสำเร็จจริงๆอยู่ดี

 

อย่างไรก็ตาม อย่าจริงจังมากครับ นี่มันงานมโนล้วนๆ เมหือนมาคุยกันว่า ถูกหวยแล้วจะซื้อหรือทำอะไรให้ชีวิตเป็นสุขที่สุด แต่ละคนก็จะมองกันคนละแบบ ละมุม มานั่งเถียงกันไปว่าทำแบบนี้ดีกว่าแบบนั้น ก็ไม่ได้มรรคได้ผลอะไรออกมา แต่ที่แน่ๆความสนุกมันคือ การได้ “นึก” ภาพของบรรดานักปั่นที่เราติดตามมาตลอดการแข่งขัน นึกถึงความประทับใจของเกมส์การแข่งขันที่ยังไม่ลืม แบบนี้ล่ะครับ ที่เรียกกันว่า “ควันหลง”

 

 

July 19, 2021 cyclinghub 0 Comment