ละคร ลาจอไปแล้วแต่ความน่าสนใจยังไม่จบ แต่ในช่วงท้ายๆของปรากฏการณ์ “ออเจ้า” ที่มาพร้อมกับละครดัง”บุพเพสันนิวาส” บทบาทหนึ่งที่เด่นขึ้น จนแทบจะแย่งความสนใจไปจาก ซีนหวานของคู่พระ-นาง ตัวหลักของเรื่องไปเสียได้ กับบทบาทของ “พระเพทราชา” ที่สวมบทโดย “บิ๊ก” ศรุต วิจิตรานนท์ ซึ่งอาจไม่คุ้นหูนักถ้าท่านไม่ใช่แฟนละครช่องต่างๆ แต่สำหรับคนที่ติดตามดนตรีกันมาซักหน่อย ย่อมไม่พลาดที่จะรู้จักกับวงสุดเท่ห์ล้ำยุคเมื่อราว 20 ปี ก่อนอย่าง Soul After Six ซึ่งฝากผลงานเพลงดังเอาไว้มากมาย ทั้งในแง่ของความยากขี้นเทพ และเพลงติดหูซึ่งทุกวันนี้ยังคงเปิดให้ได้ยินเรื่อยๆตามคลื่นวิทยุ หรือสถานบันเทิงก็ยังหยิบมาเล่นจนเข้าขั้นผลางนเพลงไม่มีวันตาย ท่านก็จะต้องถึงกับร้องอ๋อ เมื่อด้รู้ว่าแท้ที่จริงนักแสดงท่านนี้ คือมือเบสของวงดังกล่าวนี่เอง

 

ก่อนที่บทความนี้จะกลายเป็นวารสารดนตรีไปเสีย วันนี้ก็มาขอเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เพราะมีคนกระซิบมาบอกว่า “พระเพทฯขี่จักรยานด้วยนะ” เราถึงกับตาโต และสนใจอยากจะไปทำความรู็จักกันให้ลึกซึ้งกว่าที่เคยทันที ซึ่งก็ได้รับการคตอบรับอย่างแสนอบอุ่นจาก”คุณบิ๊ก” เปิดบ้านรับทีมงาน HUB ในวันครอบครัวแห่งชาติ (สงกรานต์) ก่อนจะนั่งสนทนากันเรื่องจักรยานอย่างสนุกสนาน แทบจะลืมไปเลยว่านี่คือการสัมภาษณ์นักแสดงที่สาวน้อยสาวใหญ่กำลังกรี๊ดสนั่นเมือง เพราะมันละม้ายการคุยกันของคนปั่นจักรยานด้วยกันมากกว่า จากนี้ไปก็ขอนำทุกท่านไม่ว่าจะเป็นสายปั่น สายเพลง หรือ เอฟซีออกพระท่าน เข้าสู่บรรยากาศของวันสงกรานต์ ในห้องนั่งเล่นของคุณบิ๊กกัน

 

HUB ใครหลอกมาปั่นจักรยานครับ

“ไม่มีหรอกครับ ตอนนั้นผมเห็นคนออกมาปั่นจักรยานกันเยอะ ตั้งแต่ช่วงปี 2013 พอดีว่าอยากหากีฬาเล่น อยากลดน้ำหนักด้วย ผมเป็นคนไม่ชอบพวกคลาดิโอ เวลาไปออกกำลังกายก็ไม่ชอบ ประกอบกับผมเป็นคนชอบมอเตอร์ไซค์ มันเป็นสองล้อเหมือนกัน เลยโทรศัพท์ไปปรึกษาน้องคนหนึ่งเพื่อจะหาซื้อจักรยาน เค้าก็จะให้ยืมรถมาปั่นก่อน แต่ผมเกรงใจจะเอารถคนอื่นมาปั่นได้ยังไง จึงไปหาซื้อเสือหมอบธรรมดาๆมาลองปั่นดูก่อนว่าเราจะชอบมันหรือไม่ ถ้าชอบค่อยซื้อคันต่อไป ถ้าไม่ชอบก็ไม่เสียหายอะไร”

HUB ซื้อมาแล้วไปปั่นที่ไหนที่แรกครับ

“นี่แหละครับถนนวิภาวดีนี่แหละ รอบๆบ้านผม (HUB ทำท่าฉงนมาก) จริงๆนะครับ ผมออกจากบ้านผ่านห้าแยกลาดพร้าว ปั่นไปสุทธิสาร จูงรถข้ามถนนไปอีกฝั่งก่อนจะกลับมาที่ลาดพร้าว แล้วจูงรถข้ามถนนวนกลับมาครบรอบ วนไปวนมาอยู่แบบนี้ ตอนนั้นมันไม่สนุกเลย รถก็เยอะ ปั่นก็ไม่เป็น ไม่รู้ว่าควรจะปั่นยังไง จะปั่นเร็ว หรือปั่นแบบไหนก็ไม่สนุก ผ่านไป 7 กม. ก็ยังหาความสนุกไม่ได้ พอดีเพื่อนชวนให้ไปลองปั่นที่สนามเขียว (ตอนยังเป็นสีเขียว) ปั่นได้เดือนนึง ไปติดต่อกันแทบทุกวัน จนรู้สึกว่ามันสนุก แม้ว่าการเดินทางไป-กลับจะถือว่าไกลมากรวมๆกันเกือบ 70 กม. ผมออกจากบ้านช่วงบ่ายๆ ไปปั่นตอนเย็น ค่ำก็กลับบ้าน ซึ่งรถก็ติด ถ้าวันไหนมีงานดนตรี ก็จะไม่ได้ไปปั่น แต่วันแรกระยะทาง 23.5 กม. ผมกังวลมากไม่เคยขี่จักรยานไกลขนาดนี้มาก่อน ถามเพื่อนว่าถ้าไม่ครบรอบ ไม่ไหว มีรถรับกลับรึเปล่า(หัวเราะ) แต่พอลงมือปั่นจริงๆเราก็ทำได้นี่(หว่า) มันกำลังดี แปลกใหม่ ครั้งแรกผมหยุด 2 ครั้งเพราะกลัวไม่รอด เจออะไรก็หยุดไว้ก่อน หลังจากนั้นค่อยๆปรับและขี่ได้นานขึ้น ไม่แวะพัก รุ่นน้องคนเดิมนี่แหละ ก็มาปั่นด้วย (เตีย Nich) ก็มาประกบเพื่อสอนเทคนิคการปั่น คอยดูหัวใจ คอยบอกเรื่องโซน จนต้องไปหาอุปกณ์ต่างๆมาใช้ประกอบการปั่น ”

 

HUB แล้วได้มีโอกาสปั่นจักรยานออกทริปบนถนนบ้างมั้ยครับ

“มีครับ หลังจากที่ไปปั่นในลู่จักรยาน ก็ได้ไปทริปปั่นจักรยานพับรอบเกาะรัตนโกสินทร์เป็นการปั่นเที่ยวชมเมือง แวะของกินต่างๆตามทาง วนไปวนมาอยู่แถวนั้น เริ่มจากโรงแรมดินสอที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยไปทางเสาชิงช้า ย้อนกลับมาทางเทเวศน์ ทะลุไปลานพระรูปฯ ย้อนมาราชดำเนินจนถึงวัดพระแก้ว เวนมั่วไปหมดเลยครับ(หัวเราะ) พอหิวก็ไปเยาวราชกัน 3 คนเที่ยวกันตามสบาย ระยะรวมๆ 30 กม. ไม่ได้เร็วอะไรครับ รถเล็ก ก็ไปสบายๆ ส่วนทริปเสือหมอบจริงๆจังๆ ผมยังไม่เคยไป เพราะผมไม่กล้าไป ผมกลัวว่าจะไม่รอด เราเองยังไม่แข็งขนาดนั้น ปั่นที่ลู่จักรยานก็ปั่นได้ 3 รอบ (ประมาณ 70 กม.) แต่ยังไม่คิดว่าจะไปออกทริปกับเขาได้ จะมีก็เอาจักรยานไปปั่นเที่ยวเองเช่นไปเที่ยวปราณบุรี ก็ติดจักรยานไปปั่นเล่นเรื่อยเปื่อยของผม เพื่อนๆในกลุ่มปั่นก็ชวนกันว่าจะให้ผมไปปั่นทริปร้อยโล จนถึงทุกวันนี้ทริปก็ยังไม่เกิด ทั้งจั้ม และ เตีย รวมๆกัน 4 คน ยุ่งๆกันจึงไม่ได้ปั่นกันเสียที”

 

HUB มีพื้นฐานการเล่นกีฬามาก่อนบ้างมั้ยครับ

“ตอนเด็กๆผมเป็นนักว่ายน้ำของโรงเรียน พอเริ่มโตก็เล่นฮ็อคกี้น้ำแข็ง ย้อนไปสมัยลานไอซ์สเก็ตที่เดอะมอลล์ฯ ยุคหลังจากพี่กบ ทรงสิทะ ซักหน่อย ชอบเล่นกีฬามาเรื่่อยๆ”

 

HUB เรือ่งอุปกรณ์ ผ่านเจ็บมาเยอะมั้ยครับ

“หลังจากเสือหมอบคันแรกก็ไปประกอบ Nich มาเลย แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรกับมันมาก แต่กับรถพับ ผมกลับหมดไปเยอะ เจ็บมาเยอะกว่า ผมไม่ชอบเอาเสือหมอบปั่นไปบนถนนต่างๆ ไปกินกาแฟ ผมหวาดเสียวถนนบ้านเราจะอันตราย ผิวถนนก็ไม่ได้ดีมากนัก เลยไปได้รถพับมาคันแรก ยี่ห้อ Swift ราคาหมื่นกว่าหรือสองหมื่นกว่า จำไม่ได้แล้ว แต่อัพจนเหลือแต่เฟรมที่เป็นคนเดิม (หัวเราะ)  แล้วก็ยังไม่ถูกใจเพราะพับได้ไม่เล็กมาก เลยไปหารถพับที่พับแล้วเล็กลงมาอีก ก็มาได้ Dahon (เกือบได้ไป Brompton แล้วเหมือนกัน) ราคาไม่แพงมาก แล้วก็อัพรถกระจุยเหมือนเคย หลังจากที่ลู่ปั่นเปลี่ยนชื่อเป็นสนามเจิรญสุข ก็ได้ไป แต่ไม่ได้เอารพับไป เอาเสือหมอบไป รถพับผมเอาไว้ปั่นง่ายๆใช้งานทั่วไปนี่แหละ ขี่ไปซื้อกาแฟ ขี่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยว ขี่ไปกินข้าวของผมนี่แหละ หลังๆผมจะไม่ค่อยได้ไปปั่นที่สนามเจริญสุข จากปัจจัยว่าแถวบ้านผมมีการก่อสร้างจนรถติดไปหมด รถยนต์ช่วงนี้ก็ไม่ได้ขับ ใช้มอเตอร์ไซค์ มีตั้งแต่รถใหญ่ จนรถเล็กๆมีตะแกรง ก็ขี่ไปทำงาน ไปถ่ายละคร เคยขี่มอเตอร์ไซค์เล็กนี่แหละไปนครปฐม ไปถ่ายละคร เพราะถ้าเอามอเตอร์ไซค์คันใหญ่ไป ขากลับรถติดมาก มันจะเหนื่อย ผมจึงไม่สะดวกที่จะขนจักรยานไปปั่น มันจะกินเวลาเยอะเกินไป เดินทางอย่างเดียว 3 ชม. ปั่นจักรยานรวมกับเดินเล่น กินน้ำอีก 2 ชม. เท่ากับเสียไปแล้ว 5 ชม. ทำให้ห่างหายการปั่นจักรยานมาพอสมควร แต่ผมก็ยังไปวิ่ง เริ่มจากการวิ่งรอบซอยนี่แหละ  แล้วโดนหมาไล่ ก็ไปวิ่งที่สวนรถไฟฯ เลยเห็นว่ามีเลนจักรยานปั่นในสวน ล่าสุดก็ทดลองเอารถพับไปปั่นที่สวนรถไฟ เมื่อวานนี่้แหละเพิ่งไปลองวันแรก คิดถูกที่เอารถพับไปเพราะ ที่สนามเจริญสุขเป็นที่ๆคนมาปั่นจักรยานกันจริงๆ แต่ที่นี่(สวนรถไฟ)มีครอบครัว พ่อแม่ลูก มาพักผ่อน”

HUB เวลาไปปั่นจักรยาน ไปกับกลุ่มหรือไปคนเดียวครับ

“ผมไปคนเดียว ผมเป็นโรคขี้เกรงใจเวลาไปกับคนอื่น กังวลว่าเราจะปั่นช้าเกินไปหรือเปล่า ปั่นเร็วไปหรือเปล่า เค้าจะอึดอัดมั้ย จะให้เค้าแซงเค้าก็ไม่แซงอีก วางตัวไม่ถูก ดังนั้นไปคนเดียวสบายใจกว่า เวลาไปคนเดียวมีคนมาทัก จำผมได้ บางทีเค้าก็เรียกผมเลย ขอให้หยุดมาถ่ายรูปด้วยหน่อย ผมก็ต้องรีบบอกว่าเดี๋ยวอีกรอบนึงกลับมาค่อยถ่ายนะ (หัวเราะ) มันกำลังได้รอบ ถ้าเป็นคนที่วิ่งด้วยกันเค้าจะมารอที่ทางออกค่อยขอถ่ายรูป ทั้งๆที่ตอนเล่นเป็นพระเพทราชา เป็นการสวมบทบาทเปลี่ยนหน้าไปมาก คนก็ยังจำได้”

 

HUB ในมุมของแนวดนตรีบ้าง นักดนตรีหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น มีการคุยอะไรกันมั้ยครับ

“มีครับ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ชายที่คุยกันเรื่องการออกกำลังกาย มันเริ่มมาจากการทำต่อเนื่องของกลุ่มนักดนตรีกลุ่มหนึ่ง จนมันซึมเข้ามาสู่คนต่างๆ และกลายเป็นเทร็นด์ที่ผมว่ามันดีมาก ดนตรีกลางคืน นักดนตรีอาจจะเป็นภาพของสิ่งบันเทิง แต่การเล่นดนตรีมันเหนื่อยนะ ผมเป็นนักดนตรีการเล่นดนตรีที่สัดส่วนมันยาก จังหวะมันยาก มันต้องใช้กำลังภายในเยอะ ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงเราก็ทำมันออกมาได้ไม่ดี สังคมเราในตอนนี้คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น มาปั่นจักรยาน มาวิ่ง ส่วนหนึ่งผมต้องยกให้ตูนเลยนะ ผมชื่นชมเค้ามาก คิดดีทำดีคิดจริงทำจริง พูดน้อย แล้วลงมือทำจริง เค้าปลุกอะไรหลายๆอย่างในตัวคนไทยได้มากในเรื่องของการดูแลสุขภาพ”

 

HUB ในมุมมองคิดว่าจักรยานเป็นกระแสที่ตายไปแล้วหรือยัง

“ผมว่าจักรยานไม่มีวันตายหรอกครับ มันเป็นวัฏจักร เหมือนแฟชั่นที่การแต่งกายก็หมุนเปลี่ยนไป ถึงจุดหนึ่งมันก็จะลดน้อยลง และกลับมาใหม่เมื่อมันพร้อม วนเวียนไปเรื่อยๆ

 

HUB เคยคิดว่าจะเปิดร้านจักรยานเลยมั้ยครับ

“เคยครับแต่ผมไม่มีความรู้มากพอ ผมซ่อมได้ก็แค่บางอย่าง เวลาผมไปร้านจักรยานผมจะรู้สึกดีกับร้านที่ตอบคำถามหรือแนะนำผมได้มาก แต่ผมยังไม่มัั่นใจว่าจะสามารถทำได้แบบนั้นถ้าเปิดร้าน อย่าง ต่อ นันทวัฒน์ ผมก็มีจักรยานคันแรกก็ที่ร้านของต่อนี่แหละ แต่ตอนนั้นซื้อมาแล้วไม่ได้ปั่นมาก ก็ยกให้เพื่อนไป ก่อนจะมาหารถหัดปั่นอย่างที่เล่าไปตอนแรก ในแง่ของร้านจักรยานผมมีร้านประจำในการทำรถพับ ถ้าเป็นเสือหมอบก็จะไปที่ร้านของจั้ม (จั้มไบค์สตูดิโอ) ช่วงหนึ่งของการปั่นผมมีปัญหากับอาการบาดเจ็บก็ไปฟิตติ้งเซ็ทรถที่จั้มนี่แหละ จนได้รถที่ลงตัว โดยเฉพาะเบาะ ที่กว่าจะหาได้พอดีกับเรา จั้มก็ช่วยทดสอบจนได้รถที่ถูกใจ ปรับท่าปั่นให้พอดี”

 

…เอาล่ะครับ เนื้อหาเบื้องหลังสนุกๆยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หากใครติดตามแฟนเพจของพวกเรา www.facebook.com/cyclinghubthailand ก็จะนึกออกว่าเมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไลฟ์สดนั่งคุยกับคุณบิ๊กแบบส่วนตัวสุดๆไปแล้ว มีสีสันที่ต่อยอดจากที่เล่ามาได้อีกมากมาย ใครที่ยังไม่ได้ชม ลองเข้าไปหาชมย้อนหลังกันดูนะฮับ

 

สุขสันต์วันสงกรานต์ พบกับ "พระเพทราชา-คุณบิ๊ก ศรุต" กับมุมมองการปั่นจักรยานของนักแสดงหนุ่มไฟแรง เกาะกระแส #บุพเพสันนิวาส

โพสต์โดย Cycling Hub Thailand เมื่อ 12 เมษายน 2018

 

 

 

 

April 17, 2018 cyclinghub 0 Comment