จะไปปั่นทริปจักรยานตามที่ต่างๆ ทำอ่ย่างไรดี? นี่คือคำถามง่ายๆพื้นฐานที่มีขึ้นเวลาเพื่อนชวนกันมาในกลุ่มว่า จะมีงานปั่นที่นั่น ที่นี่ ยิ่งไกลๆ ยิ่งต้องมานั่งคิดเรื่องการเดินทาง ที่พัก ดังนั้น การจะไปปั่นทริปที่ไกลเกินกว่าระยะขับรถยนต์ 2-3 ชั่วโมงนั้นถือเป็นเรื่อง”ลำบาก” สำหรับักปั่นบ้านเรา ทางออกที่พอจะหาได้ก็คือ ให้เพื่อนที่มีความเป็น”พ่องาน” ในตัวนั่นแหละ ในเมื่องเอ็งชวนข้ามา เอ็งก็สมัครให้ข้าด้วย แล้วเอ็งก็จัดการที่พัก การเดินทาง ให้ข้าด้วย เรียกว่า … ไปอย่างเดียว ที่เหลือจัดมา ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ส่วนมาก กลุ่มนักปั่นชาวไทย จะ”ยกโขยง” ไปกันทีเป็นกองทัพ มากกว่าที่จะเป็นเดี่ยว เป็นคู่ หรือเป็นครอบครัวเล็กๆ

 

สิ่งเหล่านี้ แตกต่างจากสภาพสังคมการปั่นจักรยานในต่างประเทศอย่างมาก เพราะหากคุณได้ไปปั่นจักรยานในต่างประเทศ งานใหญ่ๆที่มีผู้มาร่วมจากทั่วทุกสารทิศ คุณจะพบกับนักปั่นกลุ่มเล็กๆบ้าง คู่บ้าง หรือรอบครัวที่ เดินทางรอนแรมมาข้ามน้ำ ข้ามทะเล ข้ามประเทศ เพื่อมาร่วมงานปั่นเหล่านั้น เรียกว่าตั้งแต่ระดับขับรถข้ามคืน ไปจนถึงบินเครื่องบินข้ามวันก็มีเป็นเรื่องปกติมาก แน่นอนว่า วัฒนธรรมเดินทาง เป็นรากสำคัญของชาวตะวันตกอยู่แล้ว ข้อนี้ย่อมเป็นประตูเปิดให้พวกเขาพร้อมจะจัดสรรการเดินทางให้ตัวเองได้อย่างไม่ยาก แต่อีกปัจจัยก็คือ การที่ผู้จัดงานปั่น ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆสร้างระบบครบวงจรของการเดินทางมาร่วมงาน แม้แต่ ร่วมมือกับบริษัททัวร์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ สร้างเป็นบริการ “ทัวร์จักรยาน” กันเต็มรูปแบบ เผลอๆ จะถูกกว่าไปไล่จองที่พักและการเดินทางเอง แถมสะดวก สบาย ครบทุกรายละเอียดกว่า

 

L’Etape Thailand ที่จังหวัดพังงาน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคมนี้แล้ว ก็เป็นอีกรายการหนึ่งที่มีผู้คนบ่นกันเยอะมากว่า เดินทางลำบาก จังหวัดเล็ก ที่พักหายาก ไม่มีสนามบิน ซึ่งในครั้งนี้ นอกจากมาตรฐานการจัดงานที่ดึงเอาเกณฑ์ในการวางแผนของผู้จัด Le Tour de France มาเป็นต้นแบบ งานนี้ยังดึงเอาระบบการจัดการครบวงจรมาเป็นทางเลือกให้กับนักปั่นได้เห็นเป็นครั้งแรกอีกด้วบ

 

เริ่มกันตั้งแต่ “ไปอย่างไร??”

ว่ากันด้วยจังหวัดพังงา น้อยคนที่จะพอนึกรายละเอียดออกวาไปอย่างไร รู้ว่าอยู่ในภาคใต้แน่ๆ ไม่มีสนามบินพาณิชย์รองรับโดยตรง ต้องบินไปลงจังหวัดภูเก็ต หรือจังหวัดกระบี่ ดูแล้วลำบากเป็นที่สุด แต่อันที่จริง หากท่านเข้ากูเกิ้ล ค้นหาสนามบินภูเก็ต และบริเวณเขาหลัก ท่านจะพบว่า ระยะทางระหว่างเขาหลักถึงสนามบินฯ เท่าๆกันกับระยะทางระหว่างสนามบินฯไปถึงหาดป่าตอง จุดท่องเที่ยวสำคัญของภูเก็ต ดังนั้น แปลว่า ด้วยเวลาราวๆ 45-60 นาที คุณก็สามารถเดินทางมาถึงสถานที่จัดงานได้แล้ว (รวมเวลาเดินทางจากบ้าน+เที่ยวบิน ใช้เวลาพอๆกับขับรถจากกรุงเทพไปปั่นจักรยานที่กาญจนบุรี)

ซึ่งเที่ยวบินนั้น แน่นอนว่า กรุงเทพฯ-ภูเก็ต นั้น มีเที่ยวบินให้เลือกอย่างมากมาย

ซึ่งสำหรับบางท่าน อาจไม่สะดวกที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน อยากจะเดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากศ จังหวัดพังงา ก็มีรถโดยสารเดินทางมาได้ ให้เลือกตามเที่ยวรถอีกมากมายเช่นกัน  และหากท่านมีคำถามว่า อ้าวแล้วจักรยานจะทำอย่างไร? อย่าเพิ่งตกใจไปครับ ลองอ่านต่ออีกสักหน่อย เดี๋ยวจะเห็นว่ามีทางออกสำหรับจักรยานให้เลือกด้วย

และในกรณีที่อยากจะจัดระบบการเดินทางโดยรถยนต์ ไม่ว่าจะขับมาเอง หรือเช่าบริการรถตู้ที่สามารถบรรทุกจักรยานได้ (มีมากมายหลายเจ้า) ก็สามารถเดินทางได้ไม่ยากเช่นกัน ซึ่งวิธีนี้ เหมาะสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวแบบ Road Trip ก่อนหรือหลังกิจกรรมวันปั่นไปด้วยในตัว เพราะวันที่ 21 ตุลาคมนั้น อยู่เกี่ยวเนื่องกับวันปียมหาราช เป็นช่วงวันหยุดยาว และต่อเนื่องกับเทศกาลกิจเจ ซึ่งมีจุดน่าสนใจต่างๆมากมายในหลายจังหวัดภาคใต้

 

ไปแล้วจะไปพักที่ไหน??

นี่ก็เป็นอีกปัญหาที่หลายต่อหลายคนคิดว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะหาที่พัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า พังงา เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย เช่นเขาตาปู เขาพิงกัน เหล่านี้ เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าแท้ที่จริงอยู่ในจังหวัดพังงานี่เอง(เพราะเรามักเข้าใจว่า อยู่ที่ภูเก็ตหรือกระบี่มากกว่า) ดังนั้นอย่าแปลกใจเลยครับว่าที่นี่มีที่พักหลากหลายระดับอยู่อีกเพียบ โดยเฉพาะกลุ่มที่พักสำหรับรองรับครอบครัวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักแบบอยู่ยาวๆเป็นสัปดาห์ เงียบสงบ กิจกรรมมากมาย ปลอดภัย หรือจะเป็นที่พักแนวนักเดินทางเน้นความง่ายและสะดวกสบายเข้าไว ออกเร็ว ครบเครื่อง ที่สำคัญ ที่พักอย่างเป็นทางการของงานปั่นครั้งนี้ทั้งหมด สามารถนำจักรยานเข้าห้องพักได้เลย

 

ขนจักรานไปอย่างไร?

นี่ก็เป็นอีกปัญหาที่ทำให้หลายๆคนท้อที่จะเดินทางไปปั่นจักรยานที่ไหนไกลๆ เพราะต้องจัดการขนจักรยานไปให้มันวุ่นวาย หากจะเดินทางด้วยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถบัส ก็ต้องมีกระเป๋าจักณยานที่บ้างก็ประกอบยาก บ้างก็ใหญ่เทอะทะ แต่ไม่ว่าท่านจะขนด้วยอะไรก็ตาม สุดท้ายก็ต้องมานั่งตรวจสอบเช็คจักรยานว่าสภาพยังอยู่ดีปลอดภัยหรือไม่ สำหรับนักปั่นที่เดินทางบ่อยๆจนชิน การเอากระเป๋าจักรยานเดินทางไปด้วยก็ไม่ลำบากลำบนมากมายนัก แต่สำหรับท่านที่นานๆเดินทางที จะไปซื้อหากระเป๋า (หรือเช่า) ก็อาจจะวุ่นวาย ดังนั้นจึงเกิดบริการขนส่งจักรยานไปยังงานนี้ให้เลือกใช้ได้ด้วยเช่นกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกท่าน ที่ไม่อยาก(หรือไม่มีกระเป๋าจักรยาน) สามารถไปร่่วมปั่นได้แบบไม่ต้องมานั่งถอด แพ็คจักรยานของตนเอง

สุดท้ายก็ยังมีประเด็นที่น่าปวดหัวอยู่อีก

ไปถึงสนามบินแล้วจะทำอย่างไร?

การเดินทางไปที่พวกเรานักปั่นชอบคือ ไปถึงแล้วจบเรื่องอยู่ใกล้ๆ ถึงที่หมายแล้วเอาเป็นว่าสิ้นภาระกันไป แต่ถ้าเดินทางมาจนถึงสนามบินแล้ว ต้องติดต่อรถเช่า รับรบเช่าเอาไปอีก มันก็เป็นเรื่องที่วุ่นวายมากจริงๆ ดังนั้น งานนี้ ผู้จัดจึงเอาระบบการจัดการแบบงานปั่นใหญ่ๆในต่างประเทศ (หรืองานกีฬาระดับนานาชาติสากล) มาใช้ นั่นคือบริการ”ชัตเติลบัส” รับ-ส่ง สถานที่จัดงานและสนามบิน แน่นอนว่าบริการนี้ก็มาพร้อมกับค่าตัวแบบฟรีๆ กันไปเลย เรียกว่าสมัครมาแล้ว ได้รถบัสวิ่งรับส่งฟรีอีก ทั้งวันไปและวันกลับ

 

และทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบแวดล้อมของงานปั่นจักรยานที่นอกจากเส้นทาง ของรางวัล ของที่ระลึก การเดินทางและที่พักถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่นักปั่นต้องเตรียมตัววางแผน เราเชื่อว่าจากการพัฒนาของตลาดจักรยานที่ยังคงเป็นไปในรูปแบบและทิศทางนี้ จะมีงานปั่นที่ได้มาตรฐานบริการสากลเพิ่มมากขึ้น มีรูปแบบการจัดการที่ดียิ่งๆขึ้นในอนาคต และในไม่ช้า จะมีอีกสิ่งหนึ่งทีเ่กิดและเติบโตขึ้นนั่นก็คือ บริการจัดสรรการเดินทางไปปั่นจักรยานแบบครบวงจร ที่คุณไม่จำเป็นต้องสมัครงาน หาที่พัก หาการเดินทาง สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแต่ ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้บริการ ชำระเงินทั้งหมดรวมค่าสมัคร และรอรับหมายกำหนดการเท่านั้น

Register Now : www.letapethailand.com

September 30, 2018 cyclinghub 0 Comment