คุณจะได้หรือไม่ว่า ได้ยินชื่อ “โชเอะ” ครั้งแรกๆเมื่อไหร่?
ปฐมภพ พลอาจทัน นักปั่นลูกอีสาน ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักจักรยานแนวหน้าของประเทศไทยจากการผลักดันของคุณพ่อ และก้าวเดินจากเส้นทางระดับยุวชน เยาวชน มาจนถึงความสำเร็จในระดับแถวหน้า ถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของขุนพลจักรยานไทยที่จะก้าวขึ้นมาแทนที่รุ่นพี่ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งแน่นอนว่าเชื่อเล่น “โชเอะ” ได้มาจากยี่ห้อหมวกกันน็อคที่พ่อนำมาตั้งให้กับลูกชาย ที่คอยเป็นนทั้งโค้ชและผู้วางแนวทางให้เขาขึ้นมาสู่จุดนี้จนได้ เกิดเมื่อ 22 มิถุนายน 1997 ปัจจุบันอายุ 22 ปี สังกัดทีมสโมสรจักรยานกองทัพอากาศ
ชื่อของเขาถูกแฟนๆกีฬาสองล้อจับตามองตั้งแต่ได้สิทธิร่วมแข่งรายการ World Championship Men Junior เมื่อปี 2015 ที่สหรัฐอเมริกา และสามารถคว้าอันดับที่ 54 ในประเภทไทม์ไทรอัล หลังจากที่ในปีนั้น เขาคว้าตำแหน่งรองแชมป์เอเชียในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีมาครองได้อีกด้วย โดยแชมป์ในครั้งนั้นตกเป็นของ เคย์ทาโร่ ซาวาดะ นักปั่นญี่ปุ่นซึ่งปัจจุบันเป็นโปรสังกัดทีม บริดจ์สโตนไซคลิ่ง ทีมอาชีพสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งในขณะนั้นเขาคือแชมป์เสือหมอบอายุไม่เกิน 23 ปีของญี่ปุ่น และตอนนี้ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ลงแข่งโปรทัวร์ในยุโรปไปแล้ว
หลังจากนั้นโชเอะ ก็ได้เข้าแข่งขันในระดับนานาชาติมากมายทั้ง ทัวร์ออฟไทยแลนด์, ทัวร์เดอไต้หวัน ในปี 2017 เขาทำผลงานอันดับ 11 การแข่งขันเสือหมอบชิงแชมป์เอเชียในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ล่าสุดในปีที่ผ่านมา โชเอะ ลงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใน ทัวร์ออฟไทยแลนด์ รายการใหญ่ระดับ 2.1 ของบ้านเรา และสามารถเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย รวมถึงน่าจะพิสูจน์ว่าเขาน่าจะก้าวขึ้นสู่เส้นทางนักจักรยานที่จะเป็นหนึ่งในความหวังของพวกเราในไม่ช้า
ความน่าสนใจของโชเอะ ที่หลายๆคนสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการคิดได้คือ การมุ่งมั่นและความทุ่มเทของคุณพ่อ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ส่งให้เขามีพื้นฐานขึ้นมายังจุดนี้ จากจุดเริ่มต้นของการปั่นจักรยานเพื่อความสนุกสนานและเป็นกิจกรรมของครอบครัว จนกระทั่งขึ้นมาสู่ขั้นการออกแข่งขันอย่างจริงจังและไต่บันไดมาระดับประเทศและมีโอกาสสัมผัสกับระดับโลกได้ในที่สุด นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของนักปั่นไทย “ปฐมภพ” เราลองมาจับตาดูตลอดปี 2019 ว่าเขาจะทำผลงานในการเก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์ประเทศไทยมาเพียงพอที่จะก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จได้หรือไม่
สนาที่ 2 จังหวัดระนอง เช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ รับชมการถ่ายทอดสดได้ทางเฟสบุ๊ค ThaiPBS
