
แฟนๆกีฬาจักรยานน่าจะคุ้นชินกับข่าวของทีมจักรยานอาชีพที่มองหาผู้สนับสนุนหลักของทีม อันหมายถึงแหล่งทุนสำคัญของการทำทีมเมื่อใกล้หมดสัญญาในแต่ละฤดูกาล เช่นย้อนกลับไปวันที่ทีมใหญ่อย่าง Rabo Bank สัญชาติดัทช์ ต้องยุบทีมลงไปในยุคที่บรรดาผู้สนับสนุนพากันถอนตัวออกจากกีฬาจักรยานอาชีพเนื่องจากความอื้อฉาวของการใช้สารกระตุ้นอย่างต่อเนื่องของนักปั่นจนทำให้ภาพลักษณ์ของกีฬานี้มัวหมอง ก่อนจะรอดโศกนาฏกรรมมาเป็น LottoNL-Jumbo ในเวลาต่อมา หรือการประกาศยุบทีมลงของทีมใหญ่ก่อนจะมารวมร่างกันหาผู้สนับสุนใหม่ให้ทีมยังอยู่รอดได้ในยุคของทีม Garmin-Cervelo ด้วยสภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศแถบยุโรป
เรื่องแบบนี้ เราพบเห็นกันได้ไม่บ่อยนักในสถานการณ์ของกีฬาสมัครเล่น แต่ในบ้านเรานั้น กลับกัน เนื่องจากในโลกของจักรยาน ที่เพิ่งผ่านเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกีฬาอาชีพไม่นานมานี้ เรายังไม่มีทีมจักรยานอาชีพที่ทำโครงสร้างการบริหารทีมแบบ 100% การสนับสนุนทีมของบรรดาห้างร้าน จึงหันไปทุ่มเทกับทีมระดับสโมสร หรือเรียกกันง่ายๆว่า”คลับทีม” เป็นหลัก
ย้อนกลับไปราว 10-15 ปีที่ผ่านมา บรรดาชมรม คลับนักปั่นต่างๆต่างร่วมกันลงขันทำทีมแข่งจัรกยานกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน (วันนี้ผมจะไม่นับเรื่องทีมสโมสรเหล่าทัพหรือหน่วยงานราชการอื่นๆนะครับ) ดังจะคุ้นหูกันกับทีมใหญ่ชื่อดัง “สยามพารา” ที่สร้างขึ้นมาจนเข้าใกล้ความเป็นทีมอาชีพอย่างยิ่งยวด หรือทีมชมรมที่ได้รับการสนับสนุนจากพี่ๆน้องๆ ผองเพื่อนมิตรสหายกันเป็นทีมส่งแข่งรายการต่างๆทั้ง “สวัสดีโฮเต็ล-พระรามเก้า” และ “สวนธน-โกลด์ซิตี้” ที่การสนับสนุนไม่ได้ซับซ้อนมากมายนัก ถือเป็นการลงขันกันเพื่อความสนุกมากกว่าหวังผลทางการค้าการตลาด
กระทั่งเวลาผ่านไป กระแสทีมจักรยานเฟื่องฟูขึ้น ตามติดกับการเติบโตของกระแสจักรยานที่พัฒนาขึ้นอย่างมากมาย บรรดากลุ่มนักปั่นต่างๆ บรรดาแบรนด์จักรยานต่างๆ ต่างพากันรวมตัวกันเพื่อให้เกิดเป็นทีมที่มีการสนับสนุนเชิงกึ่งพานิชย์มากขึ้น อันจะได้ยินชื่อกันมามากมาย ไล่เรียงกันตั้งแต่ “ดับเบิลยูทู” “สิงห์-ซอยตันหรรษา” “สิงห์-ดีทีเค” และ “สหวิท” เป็นต้น ซึ่งรูปแบบทีมที่เห็นได้ง่ายอีกชนิดคือทีมที่เกิดจากแบรนด์จักรยานทั้งผู้นำเข้าและเจ้าของแบรนด์เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนนักปั่นโดยหวังผลการตลาดให้กับทีม เช่น “ฟูจิ-อินเตอร์ไบค์” และแน่นอนว่า ทีมขวัญใจมหาชนคนมีฝันอย่าง “นิช” ก็รวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่กิจกรรมจักรยานกำลังสุกงอมเต็มที่หลังจากที่ยืนต้นเติบโตมาในช่วงกระแสการเฟื่องฟูอย่างยาวนาน ส่งผลให้มีโครงสร้างการแ่งที่กว้างขวางมากขึ้น มีการรองรับสนามให้นักแข่งได้ลงมาแจ้งเกิด สร้างผลงาน และสร้างความสำราญให้กับแฟนๆจักรยานที่ติดตามชมกันอยู่มากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสังคมไทย แน่นอนว่ามันก้าวกระโดดจากเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดที่เข้าสู่อุ้งมือทุกๆท่านได้ง่ายผ่านสังคมสื่อโซเชียล
แต่นั่นเป็นเพียงกระแสผลักดันทางด้านบวกเท่านั้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า เส้นทางเดินของสภาพเศรษฐกิจบ้านเรามันย้อนทางกับเรื่องที่เล่ามาทั้งหมด การถดถอยของเศรษฐญกิจที่เราคงไม่ต้องมานั่งคุยกันว่ามาจากปัจจัยอะไรบ้าง ทำให้ห้างร้านต่างๆ เริ่มต้องคิดหนักขึ้นเมื่อต้องใช้เงินทำสิ่งที่เรียกว่า”การตลาด” การจะลงเงินอะไรลงไปในเวลาที่การค้าไม่ได้คล่อง อาจต้องมองเห็นปลายทางของผลลัพธ์ที่ได้อย่างชัดเจนมากกว่าแค่การย้ำการรับรู้ในแบรนด์ของพวกเขา
เราลองย้อนกลับไปดูดลกสากลกันอีกสักครั้งนะครับ มีแบรนด์อะไรบ้าง ที่พวกเราอาจไม่เคยรุ้เลยว่ามีอยู่จริงในดลกใบนี้ แต่พวกเรารับรู้ได้ผ่านการทำทีมจักรยานที่เราคุ้นคา ผมยกตัวอย่างง่ายๆเลยด้วยผลิตภัณฑ์ในบ้านจากแดนเบียร์ “อัลเปซีน” ที่ถือว่าโด่งดังไม่ใช่เล่นในเมืองฝรั่ง แต่ในบ้านเรามีขายเฉพาะในซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับบนเท่านั้น แต่แฟนจักรยานเรารู้จักแบรนด์นี้กันเป็นอย่างดีจากการทำทีม “ไจแอ็นท์-อัลเปซีน” และทีม “อัลเปซีน-คาทูช่า” ในทุกวันนี้ หรือจะมองไปที่แบรนด์กาแฟอย่าง “เซกาเฟรโด” ที่เข้ามาบุกตลาดคอกาแฟบ้านเราได้ไม่นาน มีคนไม่มากนักที่จะรู้จักแบรนด์นี้ แต่แฟนจักรยานเรารู้จักกันดีจากการทำทีม “เทร็ค-เซกาเฟรโด”
มองใกล้ตัวเรากับสถานการณ์ในไทย ถ้าพูดถึงประกันแบรนด์หนึ่งที่เน้นตลาดคนรุ่นใหม่ ที่อาจจะไม่ง่ายที่จะหาคนเดินถนนรู้จัก เรียกว่าแรกเริ่มที่เปิดตัวทีมมา คนยังถามเลยว่า “รู้ใจ” คืออะไร แต่ทุกวันนี้ มีนักปั่นมากมายที่รู้จักประกันแบรนด์นี้ผ่านทีมใหญ่อย่างทีมปั่น “ทีมรู้ใจ” ที่ช่วยให้ชื่อ “รู้ใจดอทคอม” ถูกตราตรึงขึ้นใจกับบรรดานักปั่นทั่วไป อีกตัวอย่างที่ชัดเจนยิ่งไปกว่าคือการเข้ามาสนับสนุนทีมจักรยานมหาชน จนทำให้เครื่องดื่มเกลือแร่ “ฮันเดร็ดพลัส” กลายเป็นเกลือแร่ที่คุ้นตาที่สุดสำหรับนักปั่นไปในเวลาอันสั้น ถ้าคุณไปถามคนวิ่ง คนเล่นฟิตเนส พวกเขาอาจไม่มีแบรนด์นี้อยู่ในรายการแรกๆที่นึกถึง แต่สำหรับพวกเราคนปั่นจักรยาน อย่าว่าแต่นึกถึงแบรนด์เลย แต่พวกเราสามารถนึกถึงรสชาติของสีเหลืองและสีแดงออกด้วยซ้ำ แหม ยามกระหายคอแห้งเหนื่อยอ่อน ทำไมอะไรดลใจก็ไม่ทราบได้ แต่อยากจะหยิบเอาขวดสีแดงมาซดคลายร้อนทีเดียวเชียว
ในเมื่อการแข่งจักรยานกำลังถูกจับตามอง และ ทิศทางของทีมจักรยานกำลังก้าวต่อไปบนเส้นทางที่อนาคตที่ยิ่งใหญ่น่าจะกำลังรออยู่ ความสนใจและการพบเห็นกิจกรรมทีมจักรยานที่ขยายตัวมากข้น พร้อมจะขยายลงสู่ตลาดกลางและกินวงกว้างมากขึ้นในเร็ววันนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีให้บรรดา”คลับทีม” ทั้งหลาย ได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้นในวันข้างหน้า ก็ต้องมาติดตามชมกันว่า ใครจะเป็นคู่ถูกขาซึ่งกันและกัน สามารถใช้กิจกรรมจักรยาน ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นกระแสที่ผ่านพ้นไปแล้ว สร้างผลตอบแทนกลับมาสอดคล้องกับแฟนการคลาดได้ เพราะการลงทุนสนับสนุนทีมจักรยานนี้ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการสโฆษณาบนสื่อต่างๆแล้วจัดว่าถูกกว่ามาก แถมนี่คือการสื่อสารทางตรงกับกลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายได้อย่างไม่ต้องอ้อมค้อม ภาพลักษณ์และข้อมูลของพวกเขา จะถูกพูด พบเห็น ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งปี ผ่านกิจกรรมของทีมจักรยานที่สนับสนุน
ฮับ ขอเอาใจช่วย และรอคอยการเติบโตของทีมจักรยานต่างๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แบรนด์สินค้าหรือบริการที่มีอยู่มากมาย จะมองเห็นช่องทางการสื่อสารที่อยู่ตรงนี้ เพราะแม้พวกเขาจะเป็นนักกีฬาสมัครเล่น แม้ว่ากระแสจักรยานอาจจะไม่สุกสดใสเหมือนหลายปีก่อน แต่กิจกรรม รายการแข่ง และการพบเห็นจักรยานยังมีอยู่พร้อมทั้งเติบโตมากขึ้นในปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่า คนปั่นจักรยานในประเทศไทย ยังคงมีประชากรที่มากอย่างที่ไม่น่าเชื่อ พร้อมทั้งขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาสนับสนุนให้โลกของจักรยานยังคงหมุนต่อไป ฝ่าภาวะเศรษฐกิจไปด้วยกันให้จงได้
เพราะความฝันไม่เคยหายไป แม้วันที่เราหมดเงินในกระเป๋า!!