มันส์สุดตั้งแต่เริ่มต้นมา ใส่กันยับก่อนวันพักครั้งสุดท้าย

หลังจากการไต่ โคล ดู ทัวมาเลต์ กันเมื่อวันเสาร์ในเสตจที่ 14 ร่างกายบอบช้ำกันมาจากเกมส์ในช่วงสุดท้าย ต้องมาต่อกันด้วยเสตจที่ 15 ไต่เขากันอีก 4 ลูก ระยะทาง 185 กม. จบบนยอดเขาอีกเช่นเคย และเป็นวันที่ทุกคนคาดว่าจะได้เจอเกมส์การแข่งขันที่สุดร้อนแรงอย่างแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้น หลังจากที่ขับเคี่ยวกันมาแทบจะตลอดทาง ที่ตีนเขา โฟซ์ เปรต์ ดัลบีส ไต่ระดับความสูง 1205 เมตร ความยาว 11 กม. ความชันเฉลี่ย 6.9 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มปั่นแตกออกเป้นกลุ่มต่างๆ นำหน้ามาโดย สองนักปั่นที่หมายจะไปเอาเสตจนี้มาครองให้ได้ และสองคนนี้ คือดีกรีเจ้าของเสตจกันมาแล้วทั้งคู่ ถือเป็นกลุ่มหนีที่อันตรายอย่างที่สุด ไซม่อน เยตส์ จากมิเคลตัน-สก็อตส์ และ ไซม่อน เกสช์เก้ จากทีมซีซีซี ทางฝ่าย เยตส์ คว้าเสตจในปีนี้ไปได้เรียบร้อยแล้ว ส่วน เกสช์เก้ อดีตก็คว้าเสตจมาแล้วจากการไต่เขาแบบนี้เช่นกัน เรียกว่า ทั้งคู่นั้นดีกรีของแข็งแทบไม่ต่างกัน

15 July 2019
106th Tou de France
Stage 15 : Limoux – Foix Prat d’Albis
LANDA Mikel (ESP) Movistar
Photo : Yuzuru SUNADA

ตามมาอีกไม่ห่าง คือ มีเคล ลานดา จากทีมโมวี่สตาร์ ที่บินเดี่ยวตามหลังอยู่ราว 1 นาที และพยายามไล่ความเร็วเข้าไปอย่างไม่ลดละ และอีกครึ่งนาทีหลังจากนั้น คือกลุ่มอันตรายที่ประกอบไปด้วย ไนโร ควินทาน่า, โรมัน ครูซิเกอร์, แดน มาร์ติน, โรมัน บาเดต์ และ อเลิ็กซี่ ลุตเชนโก (จำได้มั้ยครับ เจ้านี่แหละครับในเอเชียนเกมส์ที่ไทยเราได้เหรียญทองแดงมา) และหลังกลุ่มนี้อีกไม่ไกลก็เป็นกลุ่มของ จูเลียน อลาฟิลิปป์ เสื้อเหลืองผู้นำเกาะกลุ่มมากับมากับตัวอันดับต้นๆอย่างครบคน และกำลังไล่ความเร็วสูงเข้าไปเรื่อยๆ

ไม่นานนัก ผ่านไปเพียง 1.2 กม. เท่านั้น ไซม่อน เยตส์ ก็กระชาก เกสช์เก้ หลุดไปอย่างง่ายดาย และบินเดี่ยวนำหน้าอยู่อย่างลอยลำ แต่ด้าน มิเคล ลานดา ที่กำลังไล่และแซง เกสช์เก้ ขึ้นมาได้ก็ไม่ลดความเร็วเช่นกัน ยิ่งเยตส์เร่งความเร็ว เขาก็เร่งตามแบบไม่ยอมแพ้ จากนี้ไปอีก 20 นาที ทั้งสองคนนี้ จะคงระยะห่างนี้เอาไว้ตลอดทางถึงยอดเขา เยตส์เร่ง ลานดาก็เร่งตาม นับตามหลักแล้ว ทั้งคู่น่าจะแรงจนกินกันไม่ลง แต่ เยตส์ เกมส์วางมีดีกว่า ส่วนด้านหลังก็ยังคงเร่งความเร็วต่อเนื่อง เพราะกลุ่มนี้ มีทีมใหญ่ๆทำงานหนักมาก ผ่านไปเหลืออีกราว 7 กม. จะถึงเส้นชัย ระยะห่างจากเสื้อเหลือง กลุ่มหลัก ถึง ไซม่อน เยตส์ ห่างกันอยู่ราว 2 นาที 20 วินาที (ใน 2 กม. ลดลงมาได้ 10 วินาที) ดูแล้วโอกาสที่จะจับตัวเยตส์ น่าจะมีไม่มาก แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะพวกเขา กำลังไล่ล่ากลุ่มที่ประกอบไปด้วยนักปั่นอันตรายในตารางเวลารวมมากกว่า

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝัน ทีโบต์ ปีโน่ต์ นักไต่เขาตัวสำคัญชาวฝรั่งเศส ก็ทำการรุกกระชากกลุ่มอย่างแรง จนกลุ่มเกิดจังหวะที่ต้องยกตามกันอย่างอุตลุด ระยะทางเหลือเพียง 7 กม. ปีโน่ต์ ถือเป็นตัวอันตรายอย่างมาก เนื่องจากเขามีเวลารวมอยู่ในอันดับต้นๆของปีนี้ และถนัดการไต่เขาอย่างที่หาตัวจับได้ยากคนหนึ่ง ดังนั้นเพียงขั่วขณะหายใจ อลาฟิลิปป์ ตัดสินใจกระชากตามไปอีกคน ก่อนที่จะติดมาด้วย บุชมาน ซึ่งนี่คือกลุ่มโพเดี้ยมของเวลารวมกำลังฟาดฟันกัน อลาฟิลิปป์ชาวฝรั่งเศส เขารู้ดีว่า ปีโน่ต์ แกร่งขนาดไหนบนเขา ไม่สามารถปล่อยให้ไปไกลจากสายตาได้ ทว่า แกเร็นต์ โธมัส โดนทิ้งอยู่ด้านหลังเปิดระยะห่างจากเสื้อเหลือง หรือนี่จะเป็นอีกวันที่เขาจะต้องเสียเวลาให้กับอลาฟิลิปป์ เหมือนเมื่อวานที่โดนนำออกไปอีกหลายวินาที แต่ อีแกน เบอร์นาล จากทีมอินิออส ตัดสินใจกระชากออกไปตามกลุ่มนี้ เพื่อรักษาอันดับในกลุ่มเสื้อขาวเอาไว้ ทิ้งให้เพื่อนร่วมทีมที่เหลือ (โพลล์) อยู่กับ แกเร็นต์ โธมัส ช่วยลากคุมระยะห่างเอาไว้ ซึ่งการมารวมตัวกันของ เบอร์นาลนี่เอง ที่ทำให้เพซของกลุ่มปีโน่ต์ สุงขึ้นอีก และแล้ว อลาฟิลิปป์ ก็หลุดออกจากกลุ่มนี้ เอาล่ะสิครับ เสื้อเหลือง ที่ฟอ่ร์มแรงมาตลอด กำลังเข้าช่วงลำบากเสียแล้ว

อีกเพียง 4 กม. เท่นั้น การแข่งขันจะสิ้นสุดลง ด้านหน้า เยตส์ และ ลานดา ยังคงห่างกันราว 1 นาที บางช่วง ลานดาดูเหมือนจะสามารถลดระยะลงไปได้อีก แต่ไม่นาน เยตส์ก็เร่งความเร็วขึ้นเพื่อรักษาระยะเอาไว้ได้ และกำลังมุ่งหน้าไปสู่เส้นชัย ไซม่อน เยตส์ จะสามารถคว้าดับเบิลเสตจได้ในปีนี้หรือไม่ อีกเพียงไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น ร่างที่แทบแหลกสลายด้วยความเหนื่อยล้าของเขาคงไม่สามารถเอาชนะความมุ่งมั่นและประกายของความสำเร็จที่สว่างขึ้นเรื่อยๆ

2 นาทีลงมาจากเยตส์ ความเร็วของกลุ่มผู้นำเวลารวมยังไม่ลดลง ทีโบต์ ปีโน่ต์ เร่งเครื่องใส่อีกรอบ ความเร็วที่สูงอยู่แล้ว เร่งสูงขึนไปอีก สำหรับอีแกน เบอร์นาล เขาต้องยอมปล่อยให้ปีโน่ต์ บินจากไปอย่างช่วยไม่ได้ เครื่องยนต์ของปีโน่ต์ในวินาทีนี้ กำลังไล่ระดับเข้าสู่เทอร์โบช่วงท้าย พลังงานระเบิดออกมาเร่งเต็มที่ นี่คือ 15 นาทีแห่งชีวิตของเขา ที่ต้องใส่ทุกอย่างที่มี และเป็นอีกคนที่กำลังต่อสู้กับร่างกายที่เรียกร้องโหยหาการพัก กรดแล็คติกที่ขาท่วมท้น หัวใจสูงลิ่ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปีโน่ต์หยุดเร่งความเร็ว เขาคือคนหนึ่งที่พลาดฝันอันดับสวยงาม และลุ้นแชมป์ตูร์ เดอ ฟร็องซ์ มาหลายต่อหลายครั้ง ในปีนี้ นี่คือการเดิมพันสำคัญ ให้เขายังคงไปถึงเป้าหมายให้สำเร็จ ดังนั้น ทุกความเจ็บปวดไม่มีทางเทียบได้กับเป้าหมายที่มี

ส่วนอลาฟิลิปป์ กลับไปรวมกลุ่มกับแกเร็นต์ โธมัส เพื่อปกป้องระยะห่างตัวเองกับแชมป์เก่าเอาไว้

เข้าสู่ช่วงท้าย เพียง 2 กม. ก่อนถึงยอดเขา ไซม่อน เยตส์ ยังคงแข็งแกร่ง ยื้อระยะห่างไว้ และนำเดี่ยว ตอนนี้เขาได้ยินเสียงของเส้นชัยลอยมาตามลมแล้ว เสียงลำโพง เสียงพิธีกร และเสียงเชียร์อื้ออึงจากด้านบน ดังแหวกผ่านเสียงกองเชียร์สองข้างทางที่ตะโกนลั่นให้เขาไปให้สุด วินาทีนี้ ต่อให้ร่างจะพังลงไปตรงนี้ เขาก็จะเดิมพันด้วยการพามันผ่านเส้นชัยไปด้วยความเร็วนี้เสียก่อน เพราะหากเบาขาลงเพียงนิดเท่านั้น มิเคล ลานดา อาจตามมาทันและฝันทั้งหมดที่สร้างมาก็จะพังลงในทันที เยตส์ จึงเดินหน้าต่อไปอย่างหนักหน่วง แบกเอาความหวังของทิเคลตัน สก็อตส์ ทั้งทีมที่ทำให้เขามานำเดี่ยวในตอนนี้เอาไว้ ชัยชนะวันนี้ จะสำเร็จหรือไม่ ทั้งทีมกำลังรอเขาอยู่

มิเคล ลานดา ยอดนักไต่เขาจากทีมโมวี่สตาร์ เขาเองก็เป็นหนึ่งในความหวังของทีม หลังจากที่ ดนโร ควินทาน่า ไม่สามารถรักษาฟอร์มในการชิงอันดับเวลารวมเอาไว้ได้ นี่คือโอกาสที่เขาจะไล่เข้าไปคว้าเอาเสตจมาให้ได้เช่นกัน การหนีออกมาของเขา เป็นทั้งการรุกเพื่อรอตั้งรับหากกลุ่มผู้นำไล่มาแล้วพาเอาควินทาน่า หรือ วาลเวอร์เด้ ตัวสำคัญของทีมตามมาด้วย เขาจะได้เข้าประกบช่วยเหลือ แต่ในเมื่อมันไม่ลงเอยเช่นนี้ การรุกครั้งนี้จึงได้รับคำสั่งให้เดินเครื่องแบบไม่ต้องยั้ง ไปเอาเสคจมาให้ได้ ความพยายามตลอด 15 นาทีที่ผ่านมาคือกวดไล่ไซมอน เยตส์ให้สำเร็จ แม้ว่าจะยังไม่ถึงเสียที แต่ลานดา เองก็ยังไม่เบาเครื่องเช่นกัน ในขณะที่เขากำลังมองไปข้างหน้านั้นเอง พลันสิ่งหนึ่งก็ผ่านข้างตัวเขาไป

ทีโบต์ ปีโน่ต์ !!! ชายผู้กระชากออกมาจากกลุ่มหลักที่ตามหลังเขาไปกว่านาทีครึ่ง ชายผู้ที่จัดการทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อเขาวอยู่หมัด กำลังบินทะยานผ่านลานดาไปด้วยความเร็วสูง เพียงระยะทางไม่กี่กิโลเมตรที่ผ่านมา ปีโน่ต์ กระชากไล่เก็บเวลาขึ้นมาได้มากกว่า 90 วินาที เขาผ่านทุกจุดบนเขานี้ไปด้วยความเร็วที่สูงที่สุดในวันนี้ และในทันทีที่ผ่านลานดานี้เอง เขาก็ทำการเร่งเครื่องอีกหนึ่งรอบ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือการเร่งความเร็วครั้งที่สามของเขาในการไต่เขาลุกนี้ และมันก็เป็นผลอย่างไม่ต้องสงสัย มิเคล ลานดา ที่เดินเครื่องค้างขีดแดงมาอย่างยาวนานก็ยากจะตามไปได้

ที่ด้านหลัง เสื้อเหลืองของเรา ซึ่งวานนี้ยังคงฟอร์มสดร้อนแรง กำลังเข้าตาจน เพราะ แกเร็นต์ โธมัส ที่ฟื้นตัวได้จากช่วงแรก เร่งความเร็วขึ้นมา เปิดระยะห่างจากเสื้อเหลืองอย่างดุดัน นี่คือการเอาคืนเวลาทั้งหมดที่ผ่านมาในการแข่ง 15 วันแรกของปีนี้ และประกาศให้โลกได้รู้ว่า เขา ยังไม่ยอมแพ้ ด้วยศักดิ์ศรีของแชมป์เก่า การต่อสู้จะคงยื้อต่อไปจนถึงยอดเขาลูกสุดท้ายอย่างแน่นอน ด้วยเวลาตามหลังอลาฟิลิปป์ราว 2 นาทีเมื่อตอนเริ่มต้นวันนี้ การทวงคืนได้เสตจละ 15 วินาทีเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ เพื่อกลับมานำในการสะสมเวลารวม ชิงแชมป์ ตูร์ เดอ ฟร็องซ์ อย่างสมบูรณ์

มันคือความดราม่าอย่างที่สุดแล้วบนการแข่งขันวันนี้ และผลอันดับการเข้าเส้นชัยก็ออกมาดังนี้

ไซม่อน เยตส์ คว้าแชมป์บินเดี่ยวได้สำเร็จ

ทีโบต์ ปีโน่ต์ บินขึ้นมาคว้าที่สอง หลังเยตส์ 33 วินาที

มิเคล ลานดา เกาะปีโน่ต์มาเข้าไปด้วยกัน 33 วินาที

เอ็มมานูเอล บุชมานน์ กับ อีแกน เบอร์นาล เข้ามาพร้อมกันที่ 51 วินาทีหลังเยตส์ (เท่ากับว่า ปีโน่ต์ ตีคืนเวลาสะสมไล่สองคนนี้มาได้ 18 วินาที)

แกเร็นต์ โธมัส, อเลฮานโดร วาลเวอร์เด้ และ สตีเฟ่น ครูช์วิค สามคนเข้าเส้นชัยตามหลังเยตส์ 1 นาที 2 วินาที (โดนปีโน่ต์แซงไปได้เกือบๆนาทีครึ่ง)

ริชชี่ พอร์ต ตามมาคนเดียวเงียบๆห่างจาก เยตส์ 1 นาที 30 วินาที

และ จูเลียน อลาฟิลิปป์ เข้าเส้นชัยหลังจากเยตส์ 1 นาที 49 วินาที โดนปีโน่ต์ ทำเวลาไล่เข้ามาได้เกือบ 1 นาที 20 วินาที ที่สำคัญ โดนแกเร็นต์ โธมัส ทวงเวลาคืนไปได้ 27 วินาที

และจากเวลาของเสตจนี้เอง ที่ทำให้เวลารวมของการแข่งขันตลอด 15 เสตจที่ผ่านมา มีการขยับเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย เรียกกันว่า แข่งกันมาผ่านเขา ผ่านลม ผ่านเดี่ยวไม์ไทรอัลกันมาอย่างไร เจอเขาลุกสุดท้ายเพียง 30 นาทีนี้ ทุกอย่างมีการพลิกกันหมด เอาล่ะสิครับ หลังจากนี้ ยังเหลืออีก 5 เสตจ ซึ่งมี 3 เสตจเขาสำคัญรอคอยพวกเขาอยู่ก่อนถึงวันสุดท้ายมุ่งหน้าสุ่ปารีส หนังยาวเรื่องนี้ ท่าทางจะเดากันได้ไม่ง่ายเสียแล้ว

1.จูเลียน อลาฟิลิปป์ (ดีคอยนิคส์ ควิกสเต็ปส์) ยังคงนเวลารวมใส่เสื้อเหลืองได้

2.แกเร็นต์ โะมัส (ทีมอินิออส) ตามหลังอยู่ 1 นาที 35 วินาที

3.สตีเฟ่น ครูช์วิค (ยัมโบ้ วิสม่า) ตามหลังโธมัสอยู่ 12 วินาทีเท่านั้น

4.ทีโบต์ ปีโน่ต์ (กรูปาม่า เอฟดีเจ) บินขึ้นมาอยู่ที่สี่ และอีก 3 วินาทีเขาจะขึ้นแท่นโพเดี้ยม

5.อีแกน เบอร์นาล (ทีมอินิออส) ตามหลังผู้นำอยู่ 2 นาที 2 วินาที

6.เอ็มมานูเอล บุชมานน์ (โบรา ฮันโกรห์) ตามหลังผู้นำ 2 นาที 14 วินาที