เป็นคำถามยอดฮิตไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย สำหรับคำว่า “โซน 2 คือทุกสิ่ง” สำหรับกีฬาที่เน้นระบบความอดทนหรือ Endurance ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน วิ่ง หรือแม้แต่ว่ายน้ำ เป็นต้น โซนหัวใจคือปัจจัยินดับต้นๆที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาในแต่ละประเภท แล้วโซน 2 มีความสำคัญในด้านการฝึกซ้อมอย่างไร เรามาหาคำตอบกันครับ
เมื่อพูดถึงการฝึกซ้อมโดยทั่วๆไป ความหนักในการฝึกซ้อม + ระยะเวลาฝึกซ้อมน่าจะเป็นวิธีหลักๆที่เหล่านักกีฬาต่างใช้กัน ในที่นี้ความหนักในการฝึกซ้อมขอยกให้เป็นเรื่องของ “หัวใจ” การฝึกความทนทานนั้นคือปัจจัยสำคัญของกีฬาจักรยาน เนื่องจากนักกีฬาเองต้องปั่นท่ามกลางแดดที่อบอ้าวตามสไตล์บ้านเรา ระยะทางที่มีทั้งขึ้นๆลงๆ หรือแม้กระทั่งทางขรุขระ ความเร็วในการแข่งขัน ซึ่งต่างๆเหล่านี้เป็นปัจจัยที่คอยส่งผลให้ร่างกายนักกีฬาอ่อนล้า จนถึงขั้นหมดแรงหรือตะคริวถามหาเป็นต้น แล้ว “โซน 2” มันดีต่อการซ้อมอย่างไร

โซน 2 คือ Aerobic Zone หรือ การดึงไขมันออกมาเป็นพลังงานแทนการนำ “น้ำตาล” ซึ่งถ้าเปรียบนร่างกายเป็นถังน้ำมัน เชื้อเพลิงหลักที่เป็น “น้ำตาล” อาจจะมีแค่ 20-30% เท่านั้น ซึ่งแปลว่าถ้าเราไม่สามารถนำแหล่งพลังงาน 70-80% ที่เป็น “ไขมัน” มาใช้ได้ อาจจะทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน หรือแข่งขันไม่จบนั่นเอง โดยการฝึกซ้อม “โซน 2” หรือ Base Training นั้น จะฝึกโดยเน้นระบบเผลาผลาญเป็นหลัก โดยเน้นให้ร่างกายที่จะเรียนรู้การดึงแหล่งพลังงานที่เป็น “ไขมัน”มาใช้ พื้นฐานของการแช่โซน 2 นั้น ต้องมีปัจจัยเรื่อง “เวลา” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ระยะการฝึกซ้อม 120 นาที × HR Z2 (บางครั้งอาจจะมีเรื่องการใช้เกียร์+รอบขา เข้ามาด้วย)

โดยพื้นฐานของการฝึกใน “โซน 2” นั้นคือให้ร่างกายทนทาน ชินต่อการดึงพลังงานสะสมที่เป็น “ไขมัน” มาใช้ โดยหลีกเลี่ยงการดึง “น้ำตาล” มาใช้ ถ้าสังเกตในการอ่านค่าของคอมพิวเตอร์จักรยาน จะเห็นได้ว่า “โซน 2” ที่พูดถึงนี้คือ Fat Burn หรือ Aerobic นั่นเอง โดยหลายๆคนนำการฝึกแบบนี้ควบคู่ไปกับการลดน้ำหนักอีกด้วย

ทีนี้ “โซน 2 คือทุกสิ่ง” คำตอบคือ “ไม่ทุกสิ่งครับ” เนื่องจากการฝึกซ้อมต่างๆย่มมีผลลัพธ์ที่ออกมาแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นการฝึกโซน 2 นั้นเป็นหนึ่งในการฝึกซ้อมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Tempo หรือแม้แต่ Interval กล่าวได้คือถ้าหัวใจหรือพื้นฐานของระบบร่างกายดีแล้ว เราสามารถทนต่อความหนักในการฝึกซ้อมได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง โดยปกติของการฝึกซ้อมของเหล่านักกีฬานั้นจะแบ่งการฝึก 5-6 วัน ดังนี้
1 วันสำหรับการพักฟื้นร่างกาย Recovery Day / 3-4 วันสำหรับการฝึกในโซน 2 หรือ Endurance ซึ่งตรงนี้อาจใช้ระยะเวลาในการฝึกซ้อมเฉลี่ยวันละ 2-2.30 ชั่วโมง / 1-2 วันสำหรับการฝึกแบบเข้มข้นหรือ Tempo Interval ซึ่งการฝึกหนักแบบนี้อาจจะอาศัยช่วงเวลาสั้นๆเฉลี่ย 1-1.30 ชั่วโมง

Tag :: Training
October 27, 2018 cyclinghub 0 Comment