by FLK

เคยมีคำถามคาใจกันหรือไม่ เช่นปั่นยังไงให้เป็นขาแรง ปั่นยังไงให้มีวัตต์เยอะๆ ปั่นยังไง บลา บลา บลา ใช่ครับ บรรดาคำถามเหล่านี้ย่อมเกิดได้กับนักปั่นทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดหมอบ หรือ มือเก่าหัดซิ่ง จะปั่นให้เก่งขึ้น มีอยู่หลายปัจจัยครับ วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันดีกว่าว่าปัจจัยไหนมันน่าจะเอาไปปรับใช้กับตัวเราได้ดีที่สุด

 

-ระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม ใช่ครับอันนี้คือหลักสำคัญที่จะทำให้นักปั่นทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าสามารถก้าวขึ้นอีกหนึ่งขั้น แล้วระเบียบวินัยมันมาเกี่ยวอะไรด้วย นี่ไม่ใช่ค่ายทหารหรือว่าค่ายลูกเสือนะ !! ระเบียบวินัยในที่นี้คือ รู้จักแบ่งเวลาและแบ่งเวลาในการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เช่น อาจจะกำหนดง่ายๆว่า ปั่นอาทิตย์ละ 6-8 ชั่วโมง หลังเลิกงานหรือเลิกเรียน โดยเฉลี่ยวันหยุด 1-2 วัน เพื่อใช้ชีวิตในปกติ และคอยบันทึกหรือเก็บข้อมูลที่เราได้ซ้อมอยู่เสมอ

 

-เครื่องมือช่วยบันทึก ใช่ครับผมขอเรียกเหล่าบรรดา Bike Computer หลากหลายแบรนด์ว่า เครื่องมือช่วยบันทึก ครับ ปัจจุบันอุปกรณ์เหล่านี้มักจะพ่วงมาด้วย Application ที่สามารถให้เราเข้าไปดูข้อมูลหลังจากที่เราฝึกซ้อมเสร็จ ทั้งนี้ยังสามารถ Share ไปยังบรรดา 3rd Party Application ได้อีก เช่น สตราว่า เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้จะทำให้เราสามารถสอดส่องดูว่าร่างกายเราหัวใจเราพัฒนามาถึงจุดๆไหนแล้ว เพื่อเอาไปต่อยอดฝึกซ้อมในอนาคตได้

-ความอดทน ในทีนี้ไม่ใช่ความอดทนที่สามารถลากกลุ่มได้นาน จนเพื่อนๆมาอวยว่าเราเป็นขาแรง หรือ หมกแบบตะบี้ตะบันหมกแล้วบอกว่านี่แหล่ะคือความอดทน ความอดทนในที่นี้คือ อดทนต่อคอร์สที่เราฝึกซ้อม ใช่ครับการซ้อมของนักกีฬาระดับโลกหรือระดับทีมชาติ เค้าจะแยกกันฝึกซ้อม ตามโปรแกรมใครโปรแกรมมัน อาจจะมีมารวมกันบ้างอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง เพราะว่าแต่ละคนจะได้โฟกัสในจุดที่ตนเองต้องการหรือทำให้คอร์สนั้นๆเกิดประสิทธิผลกับตัวนักปั่นได้มากที่สุด บางครั้งเราปั่นคอร์ส XX อยู่อาจจะมีกลุ่มเพื่อนขี่มาแล้วชวนตามประสาขาแรงให้มาร่วมในขบวนรถด่วนด้วย แต่ในใจเรานั้นต้องอดทนที่ระดับ Max เพื่อไม่ให้เตลิดไปกับคำเชิญชวนที่แสนหวานหรือห้ามกิเลสไม่ให้ตบเกียร์ ขย่มเบาะแล้วทะยานออกไป จนคอร์สแตก ทำนองนี้

-ไปหาที่วัดผล เอ๊ะ !!?? มันคืออะไร ใช่ครับเมื่อมีการเรียนก็ต้องมีการสอบ ฉันใด การฝึกซ้อมก็ต้องหาที่วัดผลฉันนั้น ไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งต่างๆ หรือสนามในรูปแบบของออแดกซ์ เนื่องจากการต้องการผลลัพธ์ในแต่ละตัวบุคคลมันต่างกัน บางคนต้องการแค่ หมกกลุ่มในสนามสกายเลน 3 รอบแบบมีชีวิตรอด , บางคนต้องการเอาตัวเองไปอยู่แถวหน้าของการแข่งขัน , หรือ บางคนต้องการแค่ว่าการปั่นออแดกซ์ ที่ใช้เวลานานๆ ขอแค่ปั่นจบร่างกายและหัวใจไม่เหนื่อยล้าเป็นพอ

-ตัวเอง ไม่ใช่เค้ากับตัวเองแต่อย่างใด แต่คือตัวเราเองที่ต้องกำหนดเป้าหมายในการฝึกซ้อม ไม่ใช่การปั่นแค่ 1-2 เดือนจะสามารถทำให้เราครบเครื่องทั้งความอดทน Endurance หรือพละกำลังของกล้ามเนื้อ (กล้ามเนื้อ +หัวใจ ) Interval

การฝึกซ้อมจะเกิดประสิทธิผลได้เกิดจากความตั้งใจและความพยายามที่อยู่ในวินัยของการฝึกซ้อม กีฬาจักรยานเป็นกีฬาประเภทแข่งความอดทน อดทนทั้งพละกำลัง อดทนทั้งจิตใจ เพราะฉะนั้นกว่าที่นักปั่นจะได้รับคำว่า ขาแรง นั้นย่อมไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน จะปั่นจักรยานให้แข็งแรงไม่มีทางลัดนอกจากการฝึกซ้อมและฝึกซ้อมที่เหมาะสม มีการติดตามผลที่ดี และที่สำคัญคือต้องไม่ลดละความพยายาม ความตั้งใจที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุด หวังว่าบทความครั้งนี้คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับหลายๆคนที่อาจจะเกิดคำถามว่า จะปั่นยังไงให้แข็งแรง จะปั่นยังไงให้เก่งขึ้น เลิกตั้งคำถามเหล่านี้แล้วลองโฟกัส ตั้งเป้าหมายว่าเราจะฝึกซ้อมไปเพื่ออะไร แล้วพบกันคราวหน้า สวัสดีครับ

October 10, 2018 cyclinghub 0 Comment