
บนเวทีประกวดสาวงามทรามวัย ผู้ที่ได้มงกุฎสุดยอด ต้องมีทั้งหน้าตาที่สวยสะพรั่ง รูปร่างที่งดงามอร่ามทรวง สติปัญญาฉลาดหลักแหลม และเธอต้องเปร่งประกายออร่า และสาวงามผู้คว้ารางวัล Racing Bike จากเวทีประกวดจักรยานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์ชาติอย่าง Euro Bike ปี 2017 คือน้อง Wilier Cento 10 NDR วันนี้เธอพกความเลอเลิศประเสริฐศรีมาให้พี่ซอยนี้ได้ปู้ยี่ปู้ยำอยู่ 3 สัปดาห์ เพื่อพิสูจน์ว่า งานดีสมดีกรีนางงามแค่ไหน ไปดูกัน…
เมื่อเรามองจักรยานสักคัน แล้วรู้สึกว่าชอบหรือไม่ ใช่หรือมั่ว ก็คือเรือนร่างของจักรยานที่อยู่หน้าเรา ว่าเพ่งพินิจแล้วเกิดอารมณ์อยากจะคร่อม อยากจะครอบครองหรือไม่ มันไม่ใช่ทุกคันที่ผมกวาดตามองหัวจรดหางแล้วครางว่าซี๊ด แล้วเอาจริงๆ กลับมีน้อยคันเลยที่มันสะกดใจให้รู้สึกว่า “อยากจะเอา” มีจักรยานคันหนึ่งของค่ายนี้ คือ Cento 10 Air ที่คราแรกพบแล้วรู้สึกว่า “ขอสักครั้งเถอะมึง” โดยเฉพาะตัวสีทองแดง ควงไปไหนมีแต่คนมองตามเป็นพรวน จนมาวันนี้ได้ยลโฉมเจ้า Cento 10 NDR ที่ถอดช่วงหน้าของ 10 Air มาครบ แรกพบก็เลยต้องบอกว่า “มันสวย” มันมีความโค้งเว้าทีเข้าท่า ไม่ใช่รถแอโร่แบบทื่อๆ และก็ไม่ได้เป็นรถที่เหมือนกับลอกโมคลานตามกันออกมาจากแหล่งเดียวกัน มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่า Wilier ซึ่งมันเป็นความสวยแบบอิตาลี ที่ไม่ใช่สวยซิ่งแบบมเมริกัน ไม่ใช่สวยโฉบเฉี่ยวแบบไต้หวัน แต่มันเป็นสวยแบบมีระดับฉบับอิตาลี ซึ่งผมก็เสือกแพ้ทางสาวอิตาลีอยู่แล้วด้วย เจอกันทีไรเป็นขี่น้ำไหลไฟดับ
เนื้อตัวรายละเอียดมันยังคงเฉียบเหมือนที่สมัยได้ลอง Cento 1 Air การซ่อนสายที่เนียนไปกับ Cockpit เก็บงานดีในระดับหัวแถว มิมีสายรายล้อมให้รกรุงรังลูกกะตาเลยแม้แต่น้อย ระบบดีสเบรกที่คบหากับค่าย Shimano Ultegra DI2 ตัวล่าสุด ที่ถอดทุกความดีงามมาจาก Dura ace เสียดายที่รถทดสอบมากับแฮนด์ที่กว้างเกินระยะพี่ซอยไปซะหน่อย เลยรู้สึกเวลาควบคุมรถจะเหมือนวิดพื้นไปด้วย ข้อดีก็ทำให้ได้กล้ามอกขณะปั่นจักรยาน กวาดสายตาไปดูรายละเอียดการเก็บสี ของจากอิตาลีก็ต้องยอมรับว่ายังดีมีสไตล์ มิได้ฉูดฉาดบาดตา แต่เส้นสายลายสีที่มีน้อยแต่คม ไม่เปรอะไม่เลอะนอกกรอบเฟรม ไม่มีการพองนูนปูดโปนของสีให้รำคาญลูกตา ซึ่งพี่ซอยเป็นคน Sensitive หรือดัดจริตกับเรื่องความเนียนของผิวสีมาก ลูบไปไซน์มาเจอไฝเจอฝ้าหรือหูดปูดโปนในร่มผ้าแล้วพาลหมดอารมณ์ เสียตังซื้อจักรยานหลักแสนถ้ามันไม่เนียนไม่เรียบ มันก็เซ็งนะพี่น้อง ดังนั้นหน้าตาเนื้อตัวของเจ้า Cento 10 NDR พี่ซอยให้ผ่านแบบงานดีงานโดน ควงออกงานได้ทั้งกลางวันกลางคืนชื่นมื่นสุดๆ
มาดูเรื่องความเฉลียวฉลาดปลาดเปลื่องที่ทำให้นางได้คว้ามงกุฎมาจากเวที Euro Bike 2017 กันบ้างดีกว่า ผมเรียกว่าการ “Fusion” ใครเคยดูดราก้อนบอลบ้าง ยกมือเลย นี่คือการ Fusion ของโมกุนกับเบจิตา แล้วเป็นโคตรพ่อโคตรแม่ ซุปเปอร์ไซยาฆ่าไม่ตาย นี่คือครั้งแรกของเมืองมนุษย์ ที่เอาจักรยาน Aero Bike มาฟีเจอร์ริ่งกับ Endurance Bike กลายร่างมาเป็น Aero Comfort Super Saiya Bike เอ่อ….ไมใช่หละ….เอาใหม่ มันกลายเป็น Racing Comfort Bike ด้วยระบบรองรับแรงสะเทือนเลือนลั่นที่เรียกว่า ”Actiflex” เคล็ดไม่ลับของระบบซับแรงก็คือเจ้าลูกยางที่อยู่บริเวณ Seat Stay ทีเรียกว่า Actiflex คอยรองรับแรงสะเทือนที่ส่งผ่านล้อขึ้นมา และลูกยางที่ว่าก็ยังสามารถเปลี่ยนความแข็งได้ถึง 3 ระดับ โดยแถมมากับเฟรมให้ครบครัน เจ้าของจะได้ลองโยกลองกระทืบเพื่อหาความแข็งที่เหมาะกับสรีระของเราได้ตามสะดวก
โดยปกติสามัญประจำวงการของค่ายจักรยานต่างๆ เขาจะจับเอาจักรยานแบบ all rounds มาขยำเข้ากับระบบซับแรงที่แต่ละค่ายคิดเพื่อให้กลายเป็นจักรยานแบบ Endurance ที่มีองศาขี่สบาย ตัวเฟรมจะมีการดูดซับแรงกระแทกที่ดี แต่ค่ายนี้มานอกกรอบ คือเขาเอาโครงสร้างของเฟรมแอโร่ตัว Top ของค่ายมาเลยคือ Cento 10 Air แล้วมาใส่ระบบซับแรง Actiflex เข้าไปพร้อมกับปรับองศาช่วงหน้าให้ผู้ปั่นสบายขึ้นอีกนิด ทีนี้มันก็เลยได้ข้อดีของจักรยานแอโร่ ที่ให้ความลู่ลมประหยัดวัตต์ และได้ข้อดีของจักรยานขี่ทางไกลที่มีองศาคอหน้าที่สูงขึ้นนิดระยะเอื้อมสั้นเข้าอีกหน่อยทำให้ควบคุมสบายขึ้น แถมยังได้ข้อดีของจักรยานแบบขี่บนทางวิบากได้ ที่มีระบบซับแรงทำให้สบายเนื้อสบายตัวขี่ได้นานขึ้น ส่วนเวลาใช้จริงแล้วเป็นไง ย่อหน้าถัดไปมีคำตอบ เอาเป็นว่าด้วยแนวคิดการออกแบบเยี่ยงนี้ ทำให้เวทีใหญ่แห่งวงการจักรยานต้องถวายมงกุฎให้ชุดใหญ่ แม้แต่ค่ายทดสอบดังอย่าง Cycling Weekly ก็มอบรางวัล Editor’s Choice ให้เป็นเสียงเดียวกัน แสดงว่านอกจากหน้าตา และนวัตกรรมที่พี่ซอยเล่าไป เวลาเอาไปลงงานจริงมันต้องซิ่งแน่นอน ไปดูกันครับ
เสียดายอย่างยิ่งที่ไม่เอาคันนี้ไปไต้หวัน KOM เนื่องจากด้วยความเป็นล้อดิสและไฟฟ้าด้วย กลัวจะมีปัญหาขณะปั่นแล้วแก้ไขไม่ได้ เนื่องจากต้องปั่นทางไกลเกือบทุกวัน และก็คิดถูกจริงๆ เพราะพี่ซอยดันไปเกิดอุบัติเหตุแบบคาดไม่ถึงที่ไต้หวัน ทำให้ Drop Out บิดและตีนผีงอ ถ้าเอารถรีวิวไปคงงานงอก ดังนั้นสนามทดสอบก็เป็นสนามเจริญสุขฯเซอร์กิต และวงแหวนรอบนอกของ กทม.นี่แหละ ต้องบอกว่าตามคาดเลยนะ ปั่นสนามม่วงนี่รู้สึกเลยว่ามันไหลแบบจักรยานแอโร่ เคยลอง Cento 1 Air แล้วไหลยังไง Cento 10 NDR ก็ไหลอย่างนั้น แม้ว่าองศาจะไม่ได้ก้มมากนัก แต่พี่ซอยก็ก้มก็มุดเองเสร็จสรรพจนรู้สึกว่าขณะทำความเร็วและรักษาความเร็วในระดับ 40 อยู่นั้น มันทำได้ดีมาก รอบไม่ตกเร็วเหมือนอย่างกังวลว่า แรงจะเสียไปกับระบบซับแรงหรือเปล่า ลากกลุ่มนิ่งๆ ที่ความเร็วสูงมันดีมาก มุดดูดกลุ่มที่ความเร็วสูงก็ดีเยี่ยม ส่วนการกระชากเปลี่ยนความเร็วบ่อยๆ การสปรินท์หนักๆ พบว่าการตอบสนองไม่จี๊ดจ๊าดเหมือนรถเบาๆ หรือจักรยานพวก all rounds ที่กระแทกสนุก กระทืบมันส์ติดตีน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับอืดอาดยืดยาดเลย มันเป็นจักรยานที่ต้องไล่รอบเท่านั้นเอง แต่ถ้าไล่รอบถึงมันก็เลี้ยงรอบให้เราได้ดี ขณะปั่นก็รู้สึกคิดถึงล้อขอบสูงเพราะล้อติดรถ DT มันเตี้ยไปหน่อย พอซัดเกิน 40 มันต้องเค้นพลังคอสโม่มากไปหน่อย ถ้าได้ขอบสูงสัก 50 mm. มันจะกลายเป็นจักรยานที่ใช้เป็นหัวลากได้ดีคันหนึ่งเลย ประสบการณ์ที่ดีของ Cento 10 NDR มาตอนที่เอาไปขี่ในถนนเมืองกรุงขณะไปทำงานในเมืองและนอกเมือง ไอ้เจ้า Actiflex มันถวายงานดีเลย เจอหลุมเป็นรูด เจอบ่อเป็นลง เจอทางขรุขระก็ซัดซะหมด มันให้ความรู้สึกที่หนึบ ไม่ย้วย แต่ช่วงแขนด้านหน้ายังรู้สึกว่าแรงสะเทือนมาถึงมืออยู่ หวนให้คิดถึงระบบ Future shock ของ Roubaix ที่จัดการซับแรงด้านหน้าดีเยี่ยม อยากจะให้มาผสมพันธ์กันคงได้จักรยานที่เรียกว่า “แม่เจ้าโว้ยเลย “
การควบคุมที่ง่าย การซับแรงที่ดี ระบบเบรกแบบสั่งได้ การคงความเร็วสูงที่เด่นในแบบจักรยานแอโร่ที่แค่มุดก้มจรดแฮนด์ก็ซิ่งชิบหาย แต่เมื่อเงยหน้ามาจับฮูดยามต้องขี่ยาวๆ ก็ได้องศาที่ขี่นานไม่ปวดเมื่อย รูปร่างหน้าตามีเอกลักษณ์ ดุดันเอาเรื่อง งานสีเรียบเนียนปราณีต มาพร้อมกับชาติตระกูลรถแข่งจากอิตาลี แล้วผมจะไม่เห็นด้วยกับรางวัลรถจักรยานยอดเยี่ยมประเภท Racing Bike จากเวที Euro Bike 2017 ได้อย่างไรหละพี่น้อง