Flying With VOLA บินไปกับเสือหมอบรุ่นใหม่จาก Optima

ในช่วงนี้มีแต่กระแสการขายเสือหมอบระดับแข่งขัน เพราะสนามแข่งขันในปีนี้มันช่างเดือดพล่านไปด้วยรายการสำคัญและทีมแข่งมากมายก็เสริมทัพนักปั่นกันอย่างคับคั่ง แต่สำหรับโลกของจักรยาน การแข่งขันเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของเรื่องราวสองล้ออันกว้างใหญ่เท่านั้น ในมุมของผู้ที่กำลังสนใจมองหาเสือหมอบเริ่มต้นคันใหม่ๆที่น่าจะคุ้มค่าที่สุดตัวหนึ่งที่เราเห็นในตลาดตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และถ้าไม่นับเสือหมอบแบรนด์จีนแท้ๆที่เข้ามาเสนอทางเลือกเลือกให้กับผู้แสวงหางบสบายกระเป๋า อย่างไรก็ดี แบรนด์ไทยอย่าง Optima ก็น่าจะทำให้นักปั่นมั่นใจได้อย่างน้อยก็จากเหตุผลที่พวกเขาทุ่มเททำการสนับสนุนสร้างทีมนักปั่นในระดับประเทศได้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทั้งนักกีฬาและเสือหมอบที่รองรับความต้องการในการแข่งขันได้อย่างแท้จริง

Optima VOLA จัดเป็นเสือหมอบอะลูมีเนียมในระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง แม้ว่าผู้ผลิตจะบอกว่านี่คือทางเลือกในระดับเริ่มต้น แต่จากองค์ประกอบหลายๆอย่าง HUB ขอจัดให้มันก้าวขึ้นมาอยู่ถึงระดับกลางได้อย่างไม่น่าจะสงสัย อันดับแรกคือการเลือกชุดขับเคลื่อน Shimano 105 5800 เป็นชุดขับเคลื่อน ที่มาครบองค์ประกอบ ขาดก็แค่โซ่ที่เลือกใช้ KMC X11 ร่วมกับชุดล้อ Shimano RS11 และเบาะแบรนด์ใหญ่อย่าง San Marco โดยไม่มีการกั๊กชิ้นส่วนเพื่อลดต้นทุนแม้แต่นิดเดียว

อัตราทดขับเคลื่อนด้วยชุดจานหน้าคอมแพ็ค 50/38 และเฟือง 11-28 ดูแล้วไม่ค่อยเร้าใจนักสำหรับเสือหมอบทรงแอโร่ฯ ที่ทำความเร็วได้สูง แต่ในการใช้งานของนักปั่นโดยทั่วไป รับรองว่าเสือหมอบคันนี้จะพาให้คุณสปรินท์ขึ้นไประดับความเร็วทะลุ 50 กม./ชม. ได้สบายๆ และมากเกินพอที่จะไต่เขาต่างๆได้แล้ว ในขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆ เป็นอะไหล่ House Brand ของ Optima ทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี แฮนด์ทรงแอโร่ไดนามิคส์ก็แต่งให้เสือหมอบคันนี้ดู”ซิ่ง” ขึ้นไม่น้อยเลย

น้ำหนักทั้งคันตามที่เคลมคือ 8.9 กก. น่าจเป็นน้ำหนักที่ถือว่าปกติดีในกลุ่มเสป็คแบบนี้ แต่สำหรับราคาค่าตัว 26,900 บาท ก็พอจะบอกได้ว่าน่าจะทำให้หลายๆคนพอจะพยักหน้าพออกพอใจกับมันได้ในที่สุด มีให้เลือก 3 สีและมาในไซส์ 44, 47, 50, 52 และ 54 สมกับที่เป็นแบรนด์ไทยที่ทำขนาดรถออกมาตอบรับกับสรีระของชาวเอเชียเป็นอย่างดี โดยที่เรานั่งมองตารางมิติรถ พบว่า เฟรมถูกออกแบบมาให้มีความดุดันพอสมควรเลย และมีองศาของท่อเฟรมที่น่าจะให้การควบคุมที่มั่นคงมากกว่าแบบปราดเปรียวซุกซน รวมถึงทรงท่อที่ดูแล้วคาดเดาไปถึงกระบวนการผลิตแบบขึ้นรูปด้วยของเหลวหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่เทคโนโลยี Hydrofit T6 ของ Optima ก็น่าจะทำให้เฟรมขึ้นรูปได้ละเอียด มีรูปทรงที่แอโร่ฯในขณะที่ให้ความสติฟฟ์เพียงพอต่อการใช้งานหนักๆ

VOLA จะทำได้ดีแค่ใหนในการทดสอบ คงต้องรอชมกันหลังจากนี้ เมื่อ HUB ได้มีโอกาสทดสอบรถดังกล่าว เตรียมพบกับการทดสอบรถที่จะนำเอาคุณสมบุติของรถออกมาบอกเล่าให้รับรู้ถึงบุคลิกภาพกันในเร็วๆนี้

จุดน่าสนใจ : ราคาที่คุ้มค่า และเฟรมที่น่าจะมีดีเกินกว่าราคา
จุดที่อาจผิดหวัง : ชุดล้อติดรถอาจเป็นภาระสำคัญของการซิ่งให้สะใจ

March 24, 2018 cyclinghub 0 Comment