“ราชาแห่งขุนเขา” หรือ “King Of Mountaint” เป็นแายาที่ใช้เรียกนักปั่นผู้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในการไต่เขาในรายการจักรยานต่างๆ ทั้งระดับสมัครเล่นและระดับอาชีพ และกลายเป็นแรงจูงใจให้ใครต่อหลายคนพยายามที่จะพิชิตขุนเขา อันเป็นอุปสรรคสำคัญของนักปั่นให้ได้ดีที่สุด จากเขาลูกน้อย ไปสู่เขาสูงชันขนาดใหญ่ ซึ่งในรายการ L’etape Thailand ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคม นี้ ก็มีการให้รางวัลสำหรับนักไต่เขาด้วยเช่นกัน ซึ่งเวทีที่จะใช้พิสูจน์ความเป็นราชานี้ก็คือ “เขากระได” เขาที่ตั้งตระหง่านต้อนรับเข้าสู่เขตตะกั่วป่า วันนี้ เราจะขอแนะนำให้รู้จักกับเขาลูกนี้สักนิด เพื่อการเตรียมตัว และตอบคำถามคาใจกันสักหน่อย

 

“เขาได” มีระยะทางประมาณ 2.9 กม. ความชันเฉลี่ย 5% ความชันสูงสุด 11% ไค่ระดับควาสูงจากเดิมประมาณ 100 เมตร ถือเป็นภูเขาที่มีความยากอยู่ในระดับ Cat 4 ตามการจัดระดับความยากของ ASO ผู้จัด Tour de France  จากระดับความยาก 5 ระดับ ได้แก่ (จากลำดับล่างสุดถึงยากที่สุด) Cat 4, Cat 3, Cat2, Cat 1 และ Cat HC โดยพิจารณาจากระยะทาง, ความยาว, ความชัน และความชันสูงสุดของภูเขาลูกต่างๆในการแข่งขัน เพื่อจัดกลุ่มการให้คะแนนเพื่อชิงความเป็นเจ้าภูเขาได้ครอบครองเสื้อลายจุด ซึ่งใน L’etape Thailand นี้ใช้ภูเขาลูกนี้เพียงลูกเดียวในการจัดหาตำแหน่ง King Of Mountain ดังนั้นผู้ที่ไต่เขานี้ได้เร็วที่สุดทั้งในประเภท 140 และ 70 กิโลเมตร จะได้รางวัลเสื้อลายจุดไปครอบครอง

t

ที่มาของชื่อ”เขาได” หรือ “เขากระได” ก็มาจากลักษณะภูมิประเทศของเขาลูกนี้ แบ่งออกเป็นขั้นคล้ายบันไดสามขั้น นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ KOM  ไปจนถึงยอด นักปั่นต้องไต่เขาช่วงความชัน 3 ลำดับขั้น ขั้นละประมาณ 600-800 เมตร โดยแต่ละขั้นมีความชันเฉลี่ยราวๆ 6-8 % และมีช่วงพักสั้นๆ 100-200 เมตร สลับ โดยในขั้นสุดท้าย มีช่วงที่ชันที่สุดความยาวประมาณ 20 เมตร ที่ความชัน 11% ดักคอยอยู่เป็นด่านสุดท้าย ซึ่งนี่ไม่ใช่ภูเขาทียากเย็นเกินไปสำหรับนักปั่นในทุกชั้นลำดับ เพราะมีช่วงพักให้พอสูดหายใจฟื้นตัวได้ แต่ก็ท้าทายพอประมาณให้รีดกำลังเฮือกสุดท้ายออกมาในขั้นยอดสุด ใครที่ขึ้นไปแบบปริ่มๆแรงรับรองว่าช่วงสุดท้ายอาจได้ภาพที่ระลึกแบบหน้าเบี้ยวๆเก็บเป็นความทรงจำอย่างแน่นอน

เขาลูกนี้ สำหรับรุ่นระยะทาง 70 กิโลเมตร ดุกคอยอยู่ ณ จุดกิโลเมตรที่ 40 (โดยประมาณ) และในรุ่น 140 กิโลเมตร ภูเขานี้ดักรออยู่ที่ระยะกิโลเมตรที่ 110 (โดยประมาณ) จากนั้นดิ่งลงเขาความเร็วสุงผ่านโค้งลัดเลาะที่ต้องรีดทักษะกันไม่น้อย มุ่งหน้าสู่ช่วงสุดท้ายของการปั่น ระยะทางที่เหลืออีกราว 25 กิโลเมตรเข้าสู่ตลาดเก่าตะกั่วป่า

และอย่างที่ทราบกันดีว่า นี่ไม่ใช่ภูเขาที่ยากนักสำหรับนักปั่นขาแรง อย่างไรก็ตาม เขาที่ไม่ชันมาก จะยากเย็นขึ้นหลายร้อยเท่าได้ทันที ขึ้นอยู่กับว่าท่านปั่นกับใคร แน่นอนว่าหากท่านปั่นด้วยตัวคนเดียว รับรองว่า ขาแรงๆข้ามเขาลูกนี้ไปได้สบายๆเหงื่อแค่พอซอมที่ฝ่ามือเท่านั้น แต่ถ้าท่านกำลังขึ้นกับนักปั่นชั้นแนวหน้า ที่ระเบิดพลัง ระดับ 500-700 วัตต์ได้ 5 นาที รับรองว่าเขาลูกนี้ จะทำให้ท่านปากย้อยได้เลย ร่วมกับปัจจัยสำคัญที่ผ่านทางปั่นขึ้น-ลง มาแล้วตลอดระยะทาง 110 กิโลเมตร กับเหล่านักปั่นขาโหดระเบิดกันปลายเนิน 800 วัตต์มานับครั้งไม่ถ้วน รับรองได้เลย ว่าเขาลูกนี้จะเอานักปั่นอยู่หมัดแบบเรียบร้อยโรงเรียนฝรั่งเศส และกลายเป็นด่านคัดกรอง ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงหนึ่งเดียว จะมีสิทธิได้รับเสื้อลายจุดไปครอบครองอย่างสมภาคภูมิ

August 28, 2018 cyclinghub 0 Comment