ในโอกาสที่เราได้สัมภาษณ์ “เช็ง จี” ฮีโร่ แดนมังกรของวงการจักรยานประเทศจีน แรงบันดาลใจและไอด้อลของนักปั่นเอเชียตะวันออกที่พิสูจน์ให้เห็นได้ว่า หากมีความฝัน โอกาสย่อมมีเกิดขึ้นได้ หากเพียงไม่ท้อถอยและสู้เพื่อให้ได้มันมา จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ใช่นักจักรยาน สู่การเข้าสู่โลกของจักรยาน และในที่สุดด้วยวัย 20 ปี เขาได้เข้าร่วมโครงการสร้างฝันนักปั่นเอชียของชิมาโน ซึ่งคัดเลือกส่งเอานักปั่นเอเชียฝีเท้าดีๆ ไปเก็บตัวฝังตัวอยู่กับทีมอาชีพที่ยุโรป โดยใช้ทีม Skil-Shimano ที่พวกเขาสนับสนุนในประเทศเนเธอแลนด์ เป็นบททดสอบ ในโอกาสนั้นเองทั้ง เช็ง จี และ นักปั่นตะวันออกไกลอีกหลายๆคนต่างก็ได้รับโอกาสนี้กัน ซึ่งกลายเป็นหัวหอกของกลุ่มนักล่าฝันท้ัง ฟูมิยูกิ เบปปุ, ยูกิย่า อาราชิโร่ และ โล ซี กอง แต่สำหรับ เช็ง จี เขาต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองใช้เวลาทำหน้าที่นักปั่นที่ต้องก้าวขึ้นสู่ระดับโลกใฝห้สำเร็จ ไม่ใช่เพียง “เด็กฝาก” ที่จับส่งมากับสปอนเซอร์ใหญ่เท่านั้น
นับเป็นเวลาหลายปีที่เขาไปอยู่ในยุโรป เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีม Argos-Shimano ในเวลานั้น สร้างทีมจนเด่นดังในการแข่งระดับสุงสุดได้อย่างเต็มภาคภูมิ ก่อนที่จะปรับขึ้นมาเป็นทีมในระดับสุงสุดในปีต่อมาภายใต้ชื่อทีม Giant Shimano ซึ่งนี่คือก้าวสำคัญที่ทำให้เขาได้เป็นนักปั่นโปรยุโรปอย่างเต็มตัวในฐานะของสมาชิคคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในทีม ซึ่งผลงานของเขาที่ช่วยทีมได้ทั้งการแข่งวันเดียว และการแข่งแบบทัวร์ รวมถึง ดีกรีผ่านการแข่งแกรนด์ทัวร์ครบทั้งหมด น่าจะการันตีได้ว่า เช็ง จี ไปอยู่และเป็นโปรยุโรปที่ทำให้ฝรั่ง ได้ยอมรับกับความเป็นนักปั่นเอเชียอย่างเต็มตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย หากไม่มีโครงการพัฒนานักปั่นเยาวชนเอเชียเพื่อสร้างคนเอเชียที่จะก้าวไปในระดับโลก และแน่นอนว่า จะไม่มีทางไปถึงจุดหมายได้ หากพวกเขา ไม่ต่อสู้และฝ่าฟันกำแพงที่มีอยู่ไปทีละนิด
ในก้าวต่อไป ต้องมาคอยจับตามองกันต่อว่า การที่นักปั่นเอเชียจะไปสร้างผลงานในยุโรปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั้น จะมีทางเป็นไปได้หรือไม่ เพราะลำพังนักปั่นยุโรปที่มีจำนวนมากมยก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว การมาของนักปั่นอเมริกาใต้ก็เป็นสิ่งที่พบได้มายาวนานหลายทศวรรษแล้ว ตลอดจนอเมริกาเหนือที่ยังคงมีโครงสร้างนักปั่นอาชีพที่แข็งแกร่งและออสเตรเลียที่กำลังพุ่งขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าอย่างน่าสนใจ ท้ายที่สุด นักปั่นแอฟริกาใต้เองก็เริ่มตบเท้าเข้ามาอยู่ในโปรทัวร์มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ด้วยความได้เปรียบในฐานะประเทศอดีตอาณานิคมของชาติในยุโรป แต่ที่แน่ๆคือ การจะไปเป็นโปรแข่งอยู่ในดินแดนของพวกเขขานั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งการเริ่มต้นก้าวแรกน่าจะยากที่สุด เพราะโอกาสที่จะหาผู้สนับสนุนส่งเด็กไปฝังตัวไล่ล่าหาความฝันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องเป็นเพชรที่พร้อมจรัสแสงในตัวเองด้วย ในจำนวนนักปั่นเอชียนับหลายสิบคนที่ไปฝังตัวในยุโรป จะมีสักกี่คน ที่สามารถเป็นและโลดแล่นอยู่ในเวทีโลกได้ดั่งเช็ง จี
ขอขอบคุณ L’ETAPE Thailand By Tour De France หากไม่มีทริปเช่นนี้ เราคงไม่มีโอกาสที่จะได้ต้อนรับและพูดคุยเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟัง
