พวกเราจำกันได้หรือไม่ กับภาพที่ติดตา และข่าวที่ทำให้พวกเราถึงกับเฮสั่น เมื่อ “เจ้าบีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ ชูมือสูงประกาศชัยชนะคว้าเหรียญทองจักรยานถนนหญิง ในรายการเอเชียนเกมส์ เมื่อปี 2014 ณ อินชอนเกมส์ เกาหลีใต้ มาได้สำเร็จ และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ชื่อของทีมจักรยานไทย โดยเฉพาะประเภทหญิง ก็ถูกจับขึ้นไปวางเอาไว้บนแท่นที่ถูกจับตามองจากทั้งสื่อ และคู่แข่ง ซึ่งนั่นคือแรงผลักดันให้ทีมนักปั่นไทย มุ่งหน้าฝึกฝนข้ามไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริงให้ได้ เป็นเป้าหมายที่เราใฝ่ฝันและต้องไปให้ถึง  และยืนยันได้ว่า สปรินท์เตอร์หญิงไทยตัวเล็กแต่หัใจสุดห้าวคนีน้ เธอมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะขึ้นไปแข่งกับนักปั่นหญิงบนเวทีระดับโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี แน่นอนว่า สำหรับแฟนๆจักรยานชาวไทย “บีซ” เป็นหนึ่งในนักปั่นที่พวกเรารู้จักกันดีที่สุด และทำให้พวกเรายิ้มได้เสมอในทุกๆรายการที่เธอลงแข่ง

 

เอเชียนเกมส์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ณ ประเทศอินโดนีเซีย แม้ว่าในประเภทถนน เส้นทางอาจไม่อำนวยกับเจ้าบีซมากนัก แต่เรายังจะได้ตามเชียร์ลวดลายของสปรินท์เตอร์ถนนคนนี้บนเวทีจักรยานประเภทลู่ ซึ่งเธอจะเป็นตัวแทนชาวไทยทั้งหมดลงแข่งในชนิด”ออมเนียม” ซึ่งรวมการแข่งประเภทลู่ 4 รายการเข้าไว้ด้วยกัน และถือเป็นชนิดที่เหมาะสมกับความเป็นนักปั่นเสือหมอบถนนที่ลงมาชิงชัยในประเภทลู่มากที่สุด เนื่องจากต้องมีทั้งความทนทานและความแข็งแกร่งในเกมส์การสปรินท์ควบคู่กัน ด้วยเหตุที่ต้องแข่งในประเภท สแครชท์, เทโป้เรส, อีลิมีเนชั่น และปิดท้ายด้วย พอยท์เรส ถึงจะรวมคะแนนหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน

 

แม้ว่าเป้าหมายเหรียญทองอาจดูแล้วไม่หมูอย่างแน่นอน แต่การที่จุฑาธิป มณีพันธุ์ สามารถคว้าเหรียญทองจากเวทีซีเกมส์มาได้สำเร็จ ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ออมเนียมแรกในเอเชียนเกมส์ของเธอ อาจจะพอตั้งเป้าไปที่ตำแหน่งโพเดี้ยมเอาไว้ได้บ้าง ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ความกดดัน (ก่อนน้านี้ บีซ เคยลงแข่งคีริน ในรายการเอชเียนเกมส์มาแล้ว) และในเวทีชิงแชมป์เอเชีย เธอก็เคยคว้าอันดับ 5 จากประเภทสแครชท์มาได้ ซึ่งในช่วงนี้ เธอเน้นเก็บตัวเพื่อเพิ่มเติมจุดเด่นพร้อมทั้งแก้ไขจุดด้อยของการลงแข่งออมเนียมอย่างเต็มที่ ซึ่งในทั้งหมด 4 รายการที่ต้องแข่งในประเภทออมเนียม เจ้าบีซ มีความมั่นใจในประภทสแครชท์มากที่สุด เนื่องจากเกมส์การแข่งขันใกล้เคียงกับเกมส์ของจักรยานเสือหมอบถนนที่คุ้นเคย เพียงแต่ระยะสั้นกว่า การมาแข่งยืนระยะ แล้วมาวัดกันหน้าเส้นตอน 2 รอบสุดท้าย เป็นรูปแบบที่บีซคุ้นเคยดี

โมเมนตั้มของการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ก็ค่อนข้างส่งผลดีต่อแผนของเธอ เนื่องจากการส่งลงได้ประเทศละคนในเอเชียนเกมส์ น่าจะทำให้กลุ่มไม่ปล่อยให้เกิดนักปั่นที่หนีออกไปเปิดระยะและทำการน็อครอบกลุ่มได้ง่ายๆ เกมส์หนีหวังแล็ป กับกลุ่มเหนียวไม่ยอมปล่อยเช่นนี้เอง ที่เราคาดหวังว่าสุดท้ายจะจบลงที่การสปรินท์กลุ่ม ซึ่งเป็นงานถนัดของความหวังของเรา

 

อย่างไรก็ดี เราต้องช่วยกันส่งแรงใจเชียร์เจ้าบีซในการแข่งประเภทสุดท้ายของออมเนียม ในพอยท์เรส ซึ่งเป็นการแข่งสปรินท์เก็บแต้มกันในแต่ละรอบ โดยที่แต้มนั้นๆจะเป็นแต้มดิบที่นำไปรวมกับแต้มที่ได้จากการทำอันดับใน 3 ชนิดแรกๆมาได้ พูดง่ายๆคือ ใน 3 ชนิดแรก แข่งมาได้อันดับเท่าไหร่ในประเภทนั้นๆก็ได้รับแต้มไปตามอันดับ แต่สำหรับพอยท์เรส ทุกแต้มคือแต้มดิบที่มีค่า มันจะถูกนำไปรวมกับแต้มสะสม เพื่อหาผู้ชนะรวมในประเภทออนเนียม และพอยท์เรส ต้องมีความแข็งแกร่ง เฉียบคมสุงมาก รวมถึงเกมส์และกลยุทธการวางแผนเพื่อเอาแต้มมาสะสมเอาไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้น ผลงานที่สุ้คว้ามาได้ใน 3 ชนิดแรก อาจถูกพลิกเอาได้ง่ายๆในพอยท์เรส ซึ่งมีแต้มดิบเยอะกว่า ก็คงต้องเชียร์กันให้ถึงช่วงสุดท้ายกันเลยทีเดียว

และฝากถึงสาวนักปั่นไทยที่ลงประเภทถนนแทนเจ้าบีซในครั้งนี้ “น้องแพร” เพชรดารินทร์ สมราช กับ “น้องบีม” ชนิภรณ์ บัตรียะ ที่จะลงไปสู้กับเส้นทางที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาของจักรยานถนนในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ กับทางราบ 80 กว่ากิโลเมตร ก่อนปิดท้ายด้วยไต่เขาขึ้นเส้นชัยอีก 18 กิโลเมตร

 

กลับมาปิดท้ายกันที่ประเภทลู่กันอีกสักครั้ง เพื่อให้ได้รสชาติของแรงเชียร์ที่พวกเราต้องส่งไปให้ถึงในวันแข่ง ในประเภทออมเนียมนี้ มีนักแข่งที่ถือว่าแข็ง กำลังรอเจ้าบีซอยู่หลายคน โดยเฉพาะ ยูมิ คาจิฮาระ ที่พวกเราน่าจะคุ้นชื่อกันจากทัวร์ออฟไทยแลนด์ปีล่าสุด เธอคืออดีตแชมป์ดลกในประเภทสแครชท์ รวมถึงแชมป์ออมเนียมเอเชียเมื่อปี 2017 มีความถนัดทั้งสแครชท์และพอยท์เรส ที่นอกจากอยู่ในอันดับต้นๆของเอเชียแล้ว ยังแข่งขันในระดับโลกได้อย่างไม่เป็นสองรองใคร และ หวง ทิงยิง จากไทเปย์ ซึ่งเป็นนักจักรยานถนนแนวสปรินท์เตอร์ ที่มาเอาดีทางรถลู่ มีดีกรีแชมป์พอยท์เรสชิงแชมป์เอเชียเมื่อปี 2017 อยู่เช่นกัน

 

อย่าลืมนะครับ อีกไม่นานแล้ว และถือเป็นโค้งสุดท้ายสำหรับการเตรีนยมตัว ร่วมกันส่งแรงใจและแรงเชียร์นักปั่นไทยเรา โดยเฉพาะ เจ้าบีซซ่า จุฑาธิป มณีพันธุ์ ในโจทย์ใหม่ของเธอให้สุดำลัง ใครจะรู้ใจคนปั่นจักรยานได้เท่ากับพวกเราที่ปั่นจักรยานด้วยกันเอง ความเหนื่อยเจียนขาดใจของการฝึกซ้อม และทุกๆความทุ่มเทเวลาเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

29 สิงหาคม นี้ “ไทยแลนด์ ปู๊นๆๆๆ สู่ๆ บีซซ่า!!”

July 26, 2018 cyclinghub 0 Comment