การชิงแชมป์โลกเสือหมอบจากเมืองยอร์คเชียร์ ประเทศอังกฤษ ได้เริ่มต้นขึ้นมาแล้ว โดยที่วันนี้จะขอมาเล่าให้ฟังถึงรุ่นเยาวชนชาย หรือ Men Junior Individual Time Trial ที่เป็นแหล่งรวมอนาคตโปรระดับโลกในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะในอดีต แชมป์ในประเภทนี้ต่างก็คือ”บิ๊กเนม” ในอนาคตทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น มาร์เซล คิทเทล หรือ มิเคล เควียตโควสกี แม้ว่าในเวลานี้พวกเขาจะยังเป็นหนุ่มน้อยที่ไม่มีใครรู้จัก แต่เชื่อได้ว่าเส้นทางในฝันของเด็กหนุ่มเหล่านี้คือการเดินไปบนเส้นทางสายโปรอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะพวกเขาต้องละทิ้งชีวิตวัยรุ่นตามวัยออกไป ลด ละ เลิก อบายมุข ห่างจากงานปาร์ตี้ สีหญิง เดินเที่ยวเล่น ติดเกมส์อย่างงอมแงม มาสู่ชีวิตนักจักรยานที่ต้องซ้อมหนัก กินอาหารดี พักผ่อนอย่างเพียงพอ และควบคุมน้ำหนักอย่างต่อนเื่องตลอดทั้งปี เพื่อความสำเร็จในการเป็นนักปั่นชั้นนำให้ได้

 

บนระยะทางเกือบ 27 กม. ที่เต็มไปด้วยเนินเล็กบ้างใหญ่บ้างขึ้นลงมากมาย ทางเลี้ยวที่คอยดักอยู่เป็นอุปสรรคที่ให้นักปั่นต้องรีดพลังกดขึ้นเนิน ทิ้งดิ่งลงเนินและตัดโค้งกันอย่างคมกริบ ใครที่ทั้งแข็งแกร่ง แข็งแรง วางแผนมาดี และมีทักษะสูงก็จะเป็นผู้ชนะไป ซึ่งตลอดเวลาการแข่งขันของนักปั่นหกสิบกว่าคนนั้น ในที่สุดการบี้เบียดเวลาขึ้นนำก็งวดขึ้นชนิดเฉือนกันเพียงหายใจรดต้นคอ และผู้ที่ขึ้นมานั่งนำตั้งแต่ช่วงกลางการแข่งขันก็คือ อันโตนีโอ ทีเบรี หนุ่มน้อยจากอิตาลี ที่ผจญวิบากกรรมมาตลอดทางไม่ว่าจะเป็นรถมีปัญหา จานหน้าหลุด ไปจนต้องเปลี่ยนรถ และถูกรถทีมของนักกีฬาคนอื่นขวางหน้าอยู่ แต่แล้วเขาก็ทำเวลาเข้าเส้นชัยแซงหน้า ขึ้นมาจบการแข่งขันด้วยเวลา 38 นาที 28.25 วินาที ความเร็วเฉลี่ยกว่า 43 กม./ชม. ตามมาด้วย เอนโซ ไลน์เซ  บี้กันไปเพียง 7.79 วินาทีเท่านั้น และนี่อาจจะเป็นการแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการของอนาคตแห่งจักรยานอิตาลี ที่จะมาสานฝันเป็น วินเชนโซ นิบาลี คนที่สอง

HARROGATE, ENGLAND – SEPTEMBER 23: Podium / Antonio Tiberi of Italy Gold medal / Celebration / Flowers / during the 92nd UCI Road World Championships 2019, Individual Time Trial Men Junior a 27,6km stage from Harrogate to Harrogate / ITT / @Yorkshire2019 / #Yorkshire2019 / on September 23, 2019 in Harrogate, England. (Photo by Justin Setterfield/Getty Images)

ส่วนเจ้าหนูชาวไทยสองคนที่เข้าร่วมในรายการนี้ เจ้าฟี่ ตุลธร โสสลาม แชมป์เสือหมอบเอเชียคนปัจจุบัน ทำเวลามาเป็นอันดับที่  48 ตามหลังแชมป์ 4 นาที 20.91 วินาที ทำเวลาเดินเครื่องเต็มเหนี่ยวอย่างสม่ำเสมอในทุกๆเช็คพอยท์  ซึ่งก็ถือว่าทำเต็มที่แล้ว ส่วน ภูริช โรจน์วิไล หรือ เจ้าตุ้ย ได้โอกาสสัมผัสกับงานระดับโลกเป็นครั้งแรกเก็บประสบการณ์เอาไว้เต็มที่ ปั่นทำเวลาไปได้อันดับที่ 63 แม้จะเป็นอันดับสุดท้าย แต่นี่คือการฝนเขี้ยวเล็บให้เด็กไทย พร้อมจะก้าวไปในเส้นทางนักแข่งระดับนานาชาติอย่างเต็มตัวในอนาคต อีก 5-7 ปี เชื่อว่าทั้งสองจะกลายเป็นกำลังหลักของทัพนักปั่นไทยในเวทีรายการแข่งนานาชาติอย่างแน่นอน

 

September 24, 2019 cyclinghub 0 Comment