หลังจากที่วืดมา แบบเฉียดแล้ว เฉียดอีก ให้แฟนๆได้เสียวหลายเสตจ ในที่สุด ดาราสปรินท์เตอร์สารพัดพิษ จอมเกรียนประจำเปโลตอง ปีเตอร์ ซากาน จาก โบรา ฮันโกรห์ ก็สปรินท์คว้าเอาเสตจที่ 5 ไปครองพร้อมด้วยแต้มในการชิงชัยเสื้อเขียวแบบเป็นกอบเป็นกำได้สำเร็จ หลังจากที่วันนี้ กลุ่มใหญ่ปล่อยให้นักปั่น 4 ไปได้สำเร็จตั้งแต่ช่วงหนึ่งในสี่ของการแข่งขัน จากนั้นคุมระยะอยู่อย่างห่างๆแบบห่วงๆ ให้โอกาสทั้ง 4 ได้เก็บแต้มและไล่ตามความฝันไปจนถึงช่วงท้ายๆ ราว 22 กม. ก่อนเข้าเส้นชัย กลุ่มก็กลืนเอาผู้กล้ามอบตัวจนหมดครบถ้วนในการขึ้นเขาลูกสุดท้าย และกลายเป็นเกมส์คุมเพซสูงไม่มีใครสามารถสร้างเซอร์ไพรซ์แอ็ทแท็คออกมาได้จนต้องมาจบลงด้วยการสปรินท์หน้าเส้นชัย แฟนๆสิงห์ความเร็วต่างก็ลุุ้นกันว่า คราวนี้ ‘ซุปตาร์ จะด้านอีกหรือไม่และแล้วก็ได้เฮกันเมื่อท้ายที่สุด คนที่กำชัยก็คือ พ่อเกรียนของสาวกจอมแสบนี้เอง
ผลของการคว้าชัยเสตจนี้ทำให้ ปีเตอร์ ซากาน ขึ้นมานำในการเก็บคะแนนในกลุ่มเสื้อเขียวเป็น 144 แต้ม นำ แม็ทธิว จากทีมซันเว็บอยู่ 47 แต้ม แม้ว่าในกลุ่มชิงเสื้อเขียว สงครามนั้นยังเพิ่งเริ่ม เส้นทางยังอีกยาวไกลไปจนถึงประตูชัยในวันสุดท้าย แต่การตุนคะแนนเอาไว้ได้แบบนี้ ก็น่าจะเป็นกลยุทธสำคัญเพื่อความปลอดภัยของซากาน จุดหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ก็คือ ระหว่างขึ้นเขารอบสุดท้าย สปรินท์เตอร์บางคนหลุดกลุ่มอยู่ด้านหลังจากเปโลตอง รวมถึง คาเล็บ ยวน ทำให้สปรินท์เตอร์ที่มีหวังในวันนี้ ต้องมีความสามารถในการข้ามเขาสุงมาจนถึงหน้าเส้นได้ รวมถึง ทีมก็ต้องสามารถช่วยเซฟแรงได้อย่างเต็มที่เช่นกัน
ส่วนจูเลี่ยน อลาฟิลิปป์ ยังคงครองเสื้อเหลือง ผู้นำเวลารวมอยู่ โดยเกาะกลุ่มเข้าเส้นชัยไปด้วยเวลาเดียวกันทั้งหมด เรียกว่า ภูเขาที่มาดักในวันนี้ เจอเกมส์ดันเพซของกลุ่มหลักก็ไม่สามารถสร้างผลต่างอะไรออกมาได้เลย พรุ่งนี้ เสตจที่ 6 เสตจจัดอยู่ในกลุ่ม”เสตจเขา” ระยะทาง 160.5 กม. มีจุดสปรินท์ให้เล่นกันที่ กม.29 จากนั้น คุยกันภาษาเขาักันไปทั้งวัน ไต่เขากันไป 7 ลูก มีแต่ระดับ 1 และ 2 เท่านั้น (1 คือสุงสุดในการจัดกลุ่มความยาก) และจบลงที่เส้นชัยบนยอดเขา “ลา พลานเช่ เล เบลเลส ฟิลเลส” ความยาว 7 กม. ความชันเแลี่ย 8.7 เปอร์เซ็นต์ (เท่ากับขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายาว 7 กม. ต่อเนื่อง) ต้องบอกเลยว่า ที่นั่น … มีเดือดแน่นอน เอาล่ะครับ พรุ่งนี้ถือเป็นวันสำคัญวันแรก แล้วเราจะได้เห็นว่า ใคร จะเข้ามาเป็น ตัวละครหลักของ ตูร์ เดอ ฟร็องซ์ ในปีนี้บ้าง
