
โอลิมปิค ในปีนี้ สมกับเป็นสุดยอดแห่งเกียรติยศของเหล่านักปั่นด้วยเส้นทางที่สุดโหด และ เกมส์การแข่งที่ไม่มีใครยอมกันง่ายๆ และในวันนี้เอง เสือหมอบหญิง ก็ได้ลั่นเปิดฉากขึ้นด้วยจังหวะช่วงแรกของการหนีจากทีมนักปั่นม้ามืด จากทั้ง เอสโทเนีย และ เอธิโอเปีย ออกไปก่อน ไม่นานหลังจากนั้น จึงมีกลุ่มนักปั่นนอกสายตาชุดที่สองที่ขยับตามออกไป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ทีมชาติออสเตรีย ที่ตัดสินใจเปลี่ยนกลุ่มตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการแข่งขันขนาดนี้
ทางด้านตัวแทนของเรา ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ก็ยังฝังตัวอยู่ในกลุ่มใหญ่ที่ปล่อยให้ข้างหน้าสามารถหนีห่างออกไปได้กว่าสิบนาที ก่อนที่จะ เร่งเพซขึ้นเมื่อผ่านไปแล้วครึ่งทาง ในขณะที่ด้านหน้า กลุ่มไล่และกลุ่มหนีได้รวมตัวกันรวบได้จนเหลือเพียง 3 คนเท่านั้นที่รอดอยู่ ม้ามืดชุดแรกได้ถอนตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อย รวมถึง “กระยางดำ” แทเนียล แคมเบล ที่เคยมาแผลงฤทธิ์เอาไว้ในทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ และไม่นานหลังจากนั้น ทีมใหญ่อย่าง เยอรมันนี และอิตาลี ก็ขยับขึ้นมาเร่งเพซของกลุ่ม และเพซมาแรงขึ้นเมื่อ ฮอลแลนด์ ออกเกมส์หนัก สลับกันยิงติดๆ กันหลายครั้งจนความเร็วกลุ่มแช่ค้างไม่ลง และนี่เองที่ทำให้นักปั่นต่างก็หลุดไปทีละรายสองราย ไม่ว่าจะเป็นทีมจากสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ซึ่งก็รวมถึง นักปั่นจากบ้านเราก็ไม่สามารถยื้อเพซระดับโลกนี้เอาไว้ได้
ไม่นานหลังจากนั้น เกมส์เดือดชั้นนำ โดยฮอลแลนด์ส่งตัวหนี กระตุ้นให้ทีมใหญ่ต้องเร่งไล่ ในขณะที่ระยะห่างจากหัวของการแข่งค้างเต่ออยู่ที่ 5 นาที ก่อนที่ ออสเตรีย เธอจะยกหนีกลุ่มหน้าอีกหนึ่งครั้ง และนี่เองคือจังหวะเปลี่ยนชีวิตของ แอนนา สาวนักปั่นจากทีม ล็อตโต-ซูดาล ม้านอกสายตา ตัวผู้ช่วยทีมที่ยังไม่เคยชนะรายการเมเจอร์เลยสักครั้ง วันนี้เธอกำลังหนีเดี่ยวเคี่ยวสุดขีดในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ในขณะที่กลุ่มใหญ่ เร่งเครื่องตามมารวบอย่างน่าเกรงขาม นำทัพโดย ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่โดนกลุ่มรวบตัวหนีได้ และตัดสินใจ ทุ่มกำลังไล่ขึ้นมาเพื่อเร่งเก็บให้ได้มากที่สุด อย่างน้อย นี่คือวิธีเดียวเท่านั้นที่พวกเธอจะสามารถคว้าเหรียญกลับไปได้ เพราะด้านหน้า มีอยุ่ 3 คนนำอยู่
ซึ่งไม่นานจากนั้น กลุ่มใหญ่ที่ลากโดยเครื่องจักรสีส้มก็เก็บกลุ่มหนี 2 คนไปได้อย่างง่ายดาย เหลือเพียง แอนนา ไคเซนโฮเฟน ที่ยังคงหนีเดี่ยวอยู่ด้านหน้า เพซของเธอคนเดียว ยื้อเวลาห่างเอาไว้ได้แทบไม่ต่างจากเพซที่ทีมฮอลแลนด์รวมพลังกันไล่เลย เธอกรีดร้องปั่นไป ทั้งน้ำตาที่อาบแก้ม ก่อนจะเข้าสู่เส้นชัย คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกของเธอ
กลุ่มหลักก็โดนกระแทกออกมาด้วยสาวจอมบู๊ฮอลแลนด์ ที่ทั้งล้ม ทั้งหนี ทั้งทำเกมส์มาตลอด แอนเนอนิค ฟานวลูเทน กระชากขาดออกมาช่วง 1,500 เมตรสุดท้าย ชนิดที่ไม่มีใครไล่ได้ ตามมาติดๆด้วย เอลิซา บอร์จินี จากอิตาลี ซึ่งตัดสินใจไม่พึ่งพากลุ่ม และกระแทกตามออกมาไม่นาน ทั้งสองคน เก็บเงิน และทองแดง ไปได้ ปิดฉากสังเวียนเดือดนักปั่นสาวในวันนี้ ด้วยน้ำตาแห่งความปีติของทั้ง 3 คน ที่ได้เหรียญมาครองจนได้
ส่วนผลของตัวแทนนักปั่นไทย วันนี้เรายังไม่สามารถจบการแข่งขันได้สำเร็จครับ ช่างน่าเสียดาย แต่เชื่อว่านี่คือการต่อสู้ที่เต็มที่แล้วสำหรับทั้งทีมงานทั้งหมด และ “บีซซ่า” ซึ่งได้มาโอลิมปิคเป็นครั้งที่สอง มาคอยส่งใจเชียร์ ไม่ใช่เพียงในโอลิมปิคที่กรุงปารีสนะครับ แต่เรา ต้องส่งใจเชียร์ทัพนักปั่นไทยในการไล่เก็บแต้ม UCI เพื่อให้ได้สิทธิ์ไปให้ได้มากที่สุด