“พ่อขนตางอน” หรือใครๆในบ้านเราเรียกว่า “เจ๊มาร์ค” ฉายาของ “มนุษย์จรวด”ที่ฝรั่งตั้งให้ ล้วนแต่เป็นเครื่องหมายที่เราทุกคนจดจำ มาร์ค คาเวนดิช หนึ่งในสุดยอดสปรินท์เตอร์ตลอดกาล ที่ประสบกชความสำเร็จทั้งบนถนนและในลู่เวโลโดรม ที่สำคัญ ในตอนนี้ เขาชนะเสตจรายการ Tour De France สะสมมาไว้ได้ 30 เสตจ เป็นอันดับที่สองตลอดกาล รองลงมาจาก เอ็ดดี เมิรคซ์ ที่สะสมเอาไว้ 34 เสตจ โดยที่ 30 เสตจของเขาทำได้จากทางราบล้วนๆ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นสปรินท์เตอร์ที่คว้าเสตจทางราบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ Tour De France  นับตั้งแต่ปี 2007 ที่เขาแจ้งเกิดจนถึงปี 2018 เป็นเวลาถึง 12 ปี ที่เขาลงทำการแข่งขันมาตลอด เแลี่ยแล้วคว้าเสตจไปครองได้ในทุกครั้ง ครั้งละ 25 เสตจเลยทีเดียว

ในปีนี้ทีมไดเม็นชั่นเดต้า ต้นสังกัดของคาเวนดิช ได้วางแผนการเข้าสู่การแข่งขันด้วยเป้าหมายการสร้างทีมที่มีความสมดุลย์ในทุกๆด้าน พวกเขามีนักปั่นไต่เขาที่ดี มีนักปั่นทนทานที่สามารถหนียาวๆกับเกมส์การแข่งขันเพื่อคว้าเสตจมาได้อย่าง สตีเฟ่น คัมมิง ที่เคยเก็บเสตจจากการหนีระยะยาวมาก่อนแล้ว ดังนั้น การจะวาง คาเวนดิช เอาไว้เป็นหัวหอกและต้องทุ่มกำลังนักปั่นในทีม 3-4 คนเพื่อสร้างขบวนรถไฟทำความเร็วตั้งให้กับจรวดมิสไซล์ดั่งฐานยิง ก็ทำให้แผนต้องเสียสมดุลย์ไป ดังนั้น ทีมจึงต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่แฟนๆอาจผิดหวังนั่นคือการ ถอดเขาออกจากรายชื่อทีม และนั่นหมายถึง ความหวังว่าเขาจะเป็นผู้ที่ครองเสตจการแข่งนี้มากที่สุดในโลก อาจต้องปิดฉากลงไป เพราะแม้จะเหลือเพียง 4 เสตจ ก็จะทำให้เขาทำผลงานได้เท่ากับสถิติที่มีอยู่ แต่อายุของสปรินท์เตอร์คนนี้ก็ลุล่วงเลยมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งการกำเนิดของสปรินท์เตอร์รุ่นน้องที่ขึ้นมาอย่างเจิดจรัสในปีนี้อีกหลายต่อหลายคน ท่าทางดูแล้ว สปรินท์เตอร์ในยุคเดียวกันกับเขาก็ต่างโรยราอำลาจากหัวแถวกันไปไม่น้อย นี่เองที่ทำให้ทีมต้องชั่งใจอย่างหนักในการ”ปลด” รายชื่อของคาเวนดิช ออกจากการเป็นเป้าหมายหลักของทีมอย่างที่ให้สัมภาษณ์ไว้ ผนวกกับผลงานในปี 2018 ที่คาเวนดิช ไม่สามารถจบการแข่งขันเสตจเขาได้ในเวลาตัดตัว เขาจึงต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่ครึ่งแรกของ Tour De France หลังจากนั้นเป็นต้นมา ถึงทุกวันนี้ เขายังไม่เคยคว้าแชมป์เสตจได้อีกเลย ผลงานที่ดีที่สุดทำได้เพียงอันดับสามจากหนึ่งเสตจของ ทัวร์ออฟตุรกี เท่านั้น

ในขณะที่ทีม วางแผนนักปั่นเพื่อให้มีโอกาสในทุกๆสภาพเส้นทาง พวกเขามีสปรินท์เตอร์ที่น่าจะคาดหวังได้ในเสตจทางราบ 2 คน และมีนักปั่นที่ถนัดการหนียืนยาวได้อีก 2 คน รวมถึงนักไต่เขาสำหรับเสตจเขาหนักๆอีก 1 คน แน่นอนว่าดูากรายชื่อของทีม ทีมน่าจะเน้นไปที่การเข้าทำเกมส์หนีไปกับกลุ่มเบรคอะเวย์ให้สำเร็จในเสตจเขาและเนินเขา ที่บรรดาทีมตัววางจับระยะห่างกันเองมากกว่า ดังนั้นหน้าที่ของตัวหลักของไดเมนชั่นเดต้าในปีนี้คือ เกาะกลุ่มและทำเวลาตัวเเองให้รอดพ้นตัดตัวไปได้ รอจังหวะจนถึงเสตจเนินเขา หรือภูเขาที่มีความสำคัญ และหนีไปคว้าเสตจมาให้ได้นั่นเอง

July 3, 2019 cyclinghub 0 Comment