การปั่นจักรยานบนถนนสาธารณะ เพื่อท่องเที่ยวสนุกสนาน เป็นเรื่องใหญ่สำหรับนักปั่นหลายๆคนที่ปั่นจักรยานออกกำลังกายอยู่ในสถานที่ปิดทั้งสวนสาธารณะ และ สนามลู่ปั่นจักรยาน จนเวลาผ่านไปก็เริ่มเบื่อและไม่อยากมาปั่นจักรานอีกต่อไป เพราะปั่นไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ ปั่นออกกำลังกายนานๆไปก็เบื่อ ไม่มีแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้ปั่นต่อไปได้ แต่คุณคงลืมไปว่า จักรยาน เกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนคู่ใจที่จะพาคุณไปยังที่ต่างๆ ไม่ใช่แค่”เครื่องออกกำลังกาย” อย่างเช่นอุปกรณ์ในฟิตเนส แต่ทั้งสภาพแวดล้อม และข่าวต่างๆของอุบัติเหตุที่นักปั่นประสบพบเจอบนถนนสาธารณะ กลายเป็นฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนให้เหล่านักปั่นมากมาย หลีกเลี่ยงการพาจักรยานออกไปโลดแล่นอย่างอิสระเสรี

วันนี้เราของนำเสนอ เคล็ดลับ 3 ประการ ที่ช่วยให้คุณปั่นบนถนนได้อย่าง”สบายใจ”มากขึ้น และหากคุณนึกถึงข้อคิดเหล่านี้ รับรองว่าคุณจะออกไปเห็นโลกอีกกว้างใหญ่พร้อมกับจักรยานคู่ใจของคุณ และชีวิตสองล้อจะไม่มีวันน่าเบื่ออีกต่อไป

 

ไฟส่องสว่างที่เห็นได้ชัดเจน

ไม่เพียงเฉพาะกลางคืน แต่หลายๆประเทศระบุแล้วว่า จักรยานต้องมีไฟส่องสว่างที่เห็นได้ในเวลากลางวันด้วย เพราะอัตราการเกิดอุบัติเหตุร้าแรงเกิดขึ้นในตอนกลางวันมากกว่า ความถี่อาจไม่มากเท่ากลางคืน แต่ความหนักของอุบัติเหตุรถยนต์กับจักรยานในเวลากลางวันมักร้ายแรงกว่าเสมอ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด เราลดความเสี่ยงของเราด้วยการทำตัวเองให้สังเกตุเห็นได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้

นอกจากนั้น ยังรวมถึงเสื้อผ้า และลักษณะการปั่นที่เห็นได้ง่าย หลีกเลี่ยงการปั่นอยู่บนจุดบอดของทรรศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ และแน่นอนว่า ให้สัญญาณมืออย่างชัดเจนทุกครั้งเมื่อคิดจะมีการเคลื่อนที่ไปในแนวต่างๆ เสียเวลาสัก 2 วินาที ยกมือส่งสัญญาณ ย่อมดีกว่า บ่อยครั้งที่ผู้ขับรถอาจไม่สังเกตุเห็นจักรยาน จนกระทั่งนักปั่นมีการขยับแขนเพื่อส่งสัญญาณบอกทิศทางที่กำลังเคลื่อนที่ไป ดังนั้น แม้จะเป็นเพียงการเบี่ยงหลบอุปสรรคบนถนนที่ทำให้เราเข้าไปใกล้แนวทางวิ่งของรถมากอีกเพียงนิดเดียว แต่การยกมือส่งสัญญาณในเวลานั้น อาจเป็นตัวช่วยให้รถยนต์มองเห็นคุณได้ง่ายขึ้นและหลบออกไปอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย

 

ถนนไม่ใช่สนามแข่งที่ต้องแรงเอาเอวี

ไม่ว่าคุณจะกำลังซ้อมเพื่อไปแข่งชิงแชมป์ดลก หรือจะปั่นไปซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ภรรยาที่บ้าน คุณต้องระลึกเสมอว่า ถนนไม่ใช่สนามที่เอาไว้ทำความเร็ว หรือทำเซ็ทอย่างมุ่งมั่น แน่นอนว่าความแรงเป็นเป้าหมายสำคัญของนักปั่นอีกหลายต่อหลายคน แต่แม้แต่”โปร” ก็เคยพลาดมาแล้วจากการซ้อมบนถนนสาธารณะ แล้วพวกเราๆล่ะ? เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเอาเรื่องของความเร็วและความแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง จิตใต้สำนึกจะส่งให้คุณซื้อความเสี่ยงมาแลกได้มากกว่าเดิม เพราะในกระบวนการตัดสินใจต่างๆ คุณมีปัจจัยสำคัญค้ำเอาไว้อยู่ ซึ่งนั่นไม่ดีเลยสำหรับการปั่นบนถนนสาธารณะที่ค่อนข้างวุ่นวาย หรือจะปั่นสบายๆไปยังเส้นทางใหม่ที่ไม่คุ้นเคย

ทางออกที่ดีที่สุดคือ ระลึกเอาไว้ว่านี่คือการ”สัญจร” ไม่ว่าคุณจะแรงแค่ไหน แต่เมื่อใช้จักรยานสัญจร ก็ควรทั้งเคารพในกฏจราจร และคิดเผื่อเหตุการณ์ต่างๆเอาไว้เสมอๆ คนขับรถมากมายไม่สามารถเข้าใจความเร็วและการเบรคของจักรยานได้ การเผื่อระยะต่างๆจึงไม่เหมาะสมกับการเคลื่อนที่ของเรา แทนที่คุณจะประสานเข้าอย่างจังแล้วโวยวายว่าพวกเขาช่างไม่รู้เรื่อง คุณสามารถเลือกที่จะเบาขาลงเพื่อสังเกตุการเคลื่อนที่ของรถยนต์(คนขับ)ได้ และให้เวลาทั้งคุณและเขา ตัดสินใจกันสักหน่อย การมีเวลาเพิ่มขึ้นอีก 3-4 วินาทีในการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย ช่วยลดอุบัติเหตุได้มากมายหลายเท่า และอย่าลืมระลึกอย่างหนักแน่นว่า ทุกอย่างเกิดได้บนถนนหลวง แม้แต่หมาวิ่งตัดหน้าก็เปลี่ยนวันพรุ่งนี้ของคุณได้แล้ว

 

ให้เกียรติซึ่งกันและกัน

คำโบราณสอนเอาไว้ว่า หากคุณอยากให้ใครให้เกียรติคุณ คุณควรให้เกียรติผู้อื่นก่อน ซึ่งนั่นเป็นสัจธรรมที่แท้จริงที่สุด อย่างน้อยๆก็สำหรับสามัญชนคนทั่วไป ดังนั้นในการขี่จักรยานบนถนนสาะารณะ คุณก็ควรให้เกียรติคนที่ขับรถยนต์บนเส้นทางร่วมกันด้วยก่อนที่จะเรียกร้องให้พวกเขาเอื้อเฟื้อแบ่งเส้นทางอันเป็นสิทธิของเราให้เราได้ใช้ และให้ความสำคัญกับพวกเรา พาหนะสองล้อที่ไม่มีเครื่องยนต์ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมอันไม่สมควร ไม่ว่าจะถูกกฏหมายหรือไม่ เพราะมันคือการไม่ให้เกียรติผู้ใช้ทางร่วมกัน ทั้งการขี่ซ้อนหลายแถวจนเกะกะช่องทางสัญจรรถยนต์ การขี่ย้อนศรอย่างอันตราย รวมถึงการทำตัวเป็น”เด็กแว๊น” อย่างสนุกสนานบนท้องถนนหลวงแล้วมีข้อยกเว้นในใจตัวเองว่านี่คือกีฬา นี่คือสิ่งที่ดีกับสุขภาพ เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีไม่งาม โดยที่ลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นๆที่พบเห็น

ในหลายๆเมืองที่จักรยานเป็นประชากรที่มีจำนวนมากและสร้างปัญหาให้กับสังคมน้อย แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ได้ปั่นจักรยานบนถนนกันทุกครั้งแต่พวกเขาก็คุ้นเคยกับการสัมผัสจักรยานมาบ้าง ก็จะให้เกียรติและเคารพในสิทธิของจักรยานได้อย่างไม่ยาก ในกรุงเทพฯเองก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่การปั่นเป็นกระแสสังคมหลักจนคนจำนวนไม่น้อยอย่างน้อยก็เคยสัมผัสจักรยานกันมาบ้าง และนั่นคือจุดที่ทำให้เราได้เห็นพฤติกรรมของรถยนต์บนท้องถนนกับจักรยานที่แตกต่างไปจากอดีตอย่างชัดเจน แต่ก็บ่อยครั้งอีกเช่นกัน ที่นักปั่นสร้างกรณีดราม่าในสังคมให้เป็นที่ถกเถียงกันใหญ่โต ด้วยปลาเน่าเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นเอง

Tag :: Safety
May 13, 2019 cyclinghub 0 Comment