
แปลและเรียบเรียงจากนิตยสาร Bicycling และ Active
…นักปั่นจักรยานทุกคนก็คงเคยมีประสบการณ์เสียวๆกับสัตว์น้อยน่ารัก มิตรแท้ของมนุษย์อย่างเจ้าหมา ทั้งหมามีเจ้าของและหมาเร่ร่อนไร้เจ้าของ บางตัวขี้เล่นไล่เห่าไปกระดิกหางไป บางตัวแยกเขี้ยวใส่แล้ววิ่งไล่ บางตัวมาเงียบๆรู้ตัวอีกทีเข้าระยะทำการแล้ว … ลองมาดูวิธี “รับมือ” สี่ขา K9 พวกนี้กันครับ
…..ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนครับว่าการที่เจ้าตูบพวกนี้ไล่นักปั่นจักรยาน มันเกิดจากสาเหตุหลักๆ 2 ประการได้แก่
1.สัญชาตญาณผู้ล่าที่ติดมากับกรรมพันธุ์ เดิมที่สุนัขป่าเป็นสัตว์นักล่าที่ถูกสร้างให้ไล่งับ”ขา”ของสัตว์ที่เป็นเหยื่อ และจะตอบสนองกับเรียวขาที่ขยับยิกๆเป็นอันดับแรก ยิ่งซอยยิกเร็วเท่าไหร่ ยิ่งกระตุ้นอารมณ์”คันเขี้ยว”ของพวกมัน สังเกตุง่ายๆครับ เราปั่นมาพร้อมๆกับแม่บ้านถีบรถถีบ ตูบไล่เราก่อนเลย ทั้งๆที่ถ้างับแม่บ้านน่าจะง่ายกว่ามาก อาการแบบนี้เกิดขึ้นได้แม้ว่าเจ้าตูบตัวนั้นไม่ได้มีนิสัยหรือท่าทีก้าวร้าว
2.เจ้าตูบพวกนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าเราคือ “ตัวอะไร” และเกิดอาการหวงพื้นที่ขึ้นมา ลองจินตนาการสิ่งมีชีวิตแปลกๆ สีสันสดใส ดวงตาสะท้อนแสงวิ้งๆ หัวกลมๆมีสีแปลกๆ เคลื่อนที่ผ่านไปผ่านมาในอาณาเขตของพวกมัน ถ้าเป็นคนก็จะคุ้นเคยดี แต่นี่เป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ มันช่างกระตุ้นต่อมรักพื้นที่ให้ต้องทำงานซะหน่อยแล้ว ไม่เชื่อให้ลองเดินจูงจักรยานผ่านไป หากเป็นกรณีนี้ รับรองว่าถึงไม่ไล่แต่มันจะมายืนเห่าอยู่ใกล้ๆแน่นอนครับ
…..นอกจากนี้ก็จะเป็นกรณีพวกสุนัขนิสัยก้าวร้าว ทั้งจากพันธุ์ที่ก้าวร้าว หรือการเลี้ยงจนมีนิสัยก้าวร้าวก็ตาม พวกก้าวร้าวจัดว่ารับมือไม่ยากครับ แต่สองพวกแรกอาจต้องหากลยุทธนิดหน่อยในการรับมือ
…ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าจักรยานโดยทั่วไป โดยเฉพาะเสือหมอบ สามารถสปรินท์หนีสุนัขได้สบายๆ ปัญหาคือ เราใช้ระยะทางมากกว่าพวกมันในการเร่งไปหา top speed หากโดนชาร์จเข้ามาใกล้แบบไม่รู้ตัว เพียงไม่กี่ระยะก้าว สี่ขาพวกนี้สามารถเข้าไปถึงระยะความเร็วสุงสุดได้ บางตัวทะลุ 50 กม./ชม. โดยเฉพาะ”หมาฝรั่ง” รับรองว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะกระชากจาก 25 ไปหา 50 ได้ในเวลาเพียง 2-3 วินาทีแน่นอน ยังไม่นับถึงสภาพถนน และการจราจรที่บังคับ ดังนั้นวิธีการ “สปรินท์หนี” แม้ว่าจะได้ผลแน่ๆหากทำได้เพราะเจ้าตูบพวกนี้ยื้อความเร็วสูงสุดเอาไว้ได้ไม่นานนัก แต่หากไม่สำเร็จจะยิ่งอันตรายยิ่งกว่าเดิม …อาจโดนกัดแถมล้มกลิ้งอีกต่างหาก
ขอนำเสนอเคล็ดลับ รับมือหมาดังนี้ครับ
นิ่งสงบสยบหมา
เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะถูกสัตว์นักล่าเขเทโจมตี หรือเริ่มรุกเข้าใส่ การที่ท่านรีบร้อนเบี่ยงหลบออกไปนอกจากจะเสี่ยงจากการหนีสี่ขาไปปะสี่ล้อแล้ว ท่านกำลังส่งสัญญาณไปให้ไอ้เขี้ยวขาวที่กำลังไล่แบบไร้สติ เพราะต่อมลึกถูกกระตุ้นว่านี่คือเหยื่อของมันจริงๆ ท่าทีพุ่งทะยานหนี เบี่ยงหลบ และกระโจนออก คืออาการตอบสนองของ”เหยื่อ” ในสถานการณ์การล่าของสัตว์ป่า
มีสติจ้องดูพฤติกรรม
หากเป็นกรณีที่ 1 ส่วนมากสุนัขเหล่านี้จะไม่เข้าทำร้าย”ขา”ของท่านง่ายๆ พฤติกรรมส่วนใหญ่จะวิ่งตีคู่ไปด้วยกันพร้อมกับจ้องหาจังหวะเข้าจู่โจม แต่ร้อยละ 80 ของสุนัขจะไม่กระโจนเข้ากัด ทว่าพบว่ามากกว่าครึ่งจะวิ่งตีคู่และแซงท่านไปด้านหน้าขวางทางเอาไว้ ซึ่งนั่นคืออันตรายยิ่งกว่า เพราะท่านจะชนแล้วล้มกลิ้งลงไป กว่าจะลุกมาได้ ก็เห็นเจ้าตูบวิ่งหางจุกก้นกลับบ้านไปแล้ว เพราะโดนคนและจักรยานทับเอ๋ง
ระบุตัวเหยื่อ
ถ้ามากันเป็นกลุ่มๆ สุนัขจะเข้าไล่เหยื่อตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดเมื่อเข้าสู่ระยะทำการ เช่นหากมันวิ่งเข้าชาร์จจากฝั่งซ้าย มันจะเล็งนักปั่นด้านซ้ายของกลุ่มเสมอ และจะเล็งคนที่มันมุ่งหน้าเข้าใส่ ดังนั้นคนอื่นๆอย่าตกใจ อย่าเบรค อย่าเลี้ยวกระทันหัน เพราะถ้าล้มเทกระจาดลงไป นอกจากเจ็บแล้วยัง”อายหมา”อีกต่างหาก ทางที่ดี ใครไม่เกี่ยวกับคู่กรณีให้นิ่งเข้าไว้ ปล่อยให้คู่นั้นสบตาหาทางรอดกันต่อไปดีที่สุด เอาเวลาไปหยิบกล้องมาเตรียมถ่ายคลิปเอาไว้ล้อกันเล่นได้อีกเป็นปี
หมาดุ…คนดุกว่า
กรณีนี้แนะนำให้ใช้กับ”หมาเดี่ยว” อย่าใช้กับ”หมาหมู่”นะครับ เพราะถ้าท่านไปดุกว่าใส่ลูกน้องมัน ลูกพี่มันจะโชว์ความป๋าเพิ่มปกป้องฝูงทันที …ปกติแล้วตูบพวกนี้ไม่ได้มีใจกร้าวอะไรมากมายนัก ยกเว้นพวกที่ก้าวร้าวจริงๆซึ่งเป็นส่วนน้อย และท่าทางมันจะบ่งบอกว่า “เอาแน่” หางตกชี้ แยกเขี้ยว ไม่พูดไม่จา แต่ถ้ามันวิ่งไป เห่าไป กระดิกหางไป แยกเขี้ยวบ้าง หุบปากบ้าง แสดงว่ามันกำลัง”เล่น”กับสัญชาตญาณของตัวมันเอง ถ้าเจอเรา”ดุกว่า”เข้าไป หมาก็หงอได้ไม่ยาก แค่ตะโกนเสียงดังๆในระยะใกล้ๆ ส่งเสียงตำคอกใส่หน้าขู่มัน ก็จะไล่เจ้าตูบใจเสาะไปได้เกินครึ่งแล้วโดยไม่ต้องเสียแรงอะไรเลย
แต่….เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้นใช่มั้ยครับ? แน่นอนว่าถ้ามันจบง่ายๆแบบนั้น คงไม่ต้องมานั่งทำบทความอ่านกันให้สนุกสนาน ถ้าถึงเวลาต้อง”รับมือ”กันจริงๆ เราจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อปกป้องตัวเราเองจากอันตรายจากคมเขี้ยว การเกี่ยวชน หรือเสียหลัก
1.อาวุธยิงระยะสั้น กระบอกน้ำ ไม่ใช่หยิบมาแล้วเขวี้ยงใส่นะครับ เสียของเปล่าๆ รอให้มันเข้ามาอยู๋ในระยะ 1-1.5 เมตร บีบน้ำในกระบอกเล็งเข้าแสกหน้าอย่างจัง รับรองว่าเอ๋งเบรคตัวโก่งทุกตัวครับ มันไม่ได้เจ็บอะไรหรอกครับ เรื่องของเรื่องคือตกใจ แต่ต้องคิดดีๆว่าเจ้าตัวนี้เป็นเจ้าถิ่นถาวรหรือเปล่า เพราะทริคนี้ถ้าใช้แล้วใช้ซ้ำมักไม่ค่อยได้ผลครับ
2.ปลดคลีทเท้าข้างที่มันกำลังสนใจ ใจเย็นๆครับรอให้มันเข้ามาใกล้มากๆ อย่ากลัวครับ พวกนี้จะไม่เปิดปากอ้าเขี้ยวจนกว่าจะกระโจนใส่ ดังนั้น ถ้าเราใส่ก่อนก็จะไม่โดนเขี้ยวมันแน่นอน เหยียดขาถีบหงายเปิดปุ่มเข้าปลายจมูกซักหนึ่งดอก คุณจะได้ยินเสียง”เอ๋งงง” จากนั้นรีบใส่คลิปกลับแล้วปั่นต่อ เผื่อว่าเป็นหมาฝรั่งที่เปรี้ยงเดียวอาจทำได้แค่ยื้อให้ช้าลง
3.จอดเลยครับ ถ้าดูลู่ทางแล้วไม่รอดแน่ รับมือไม่ได้ เพราะมาเป็นฝูงหรือตัวใหญ่น้องๆม้าก็เถอะ ให้จอด แล้วลงยืนประจันหน้ากับสัตว์โลก เอาจักรยานคั่นตรงกลางท่านกับสุนัขเอาไว้ จังก้าจ้องตากัน ถ้ากระโจนเข้าใส่ก็เอาจักรยานกันได้ หรือจะทำทียกจักรยานพร้อมจะฟาดใส่ก็จะแสดงท่าทีบ่งบอกว่า “ข้าไม่หมูนะเฟ้ย จะล่าข้า ข้าสู้ขวิดเอ็งตาย” ถ้าเจอเป็นฝูงให้ระวังพวกที่จะอ้อมมาด้านหลังให้ดี ส่วนมากจะประชันกันได้ไม่นาน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเลิกราก่อนครับ
4.ในกรณีที่หยุด ต่อเนื่องจากข้อ 3 ให้แสดงออกว่า”นี่คือคน” ถอดหมวก ถอดแว่นกันแดดออก ให้มันเห็นหน้าว่าเป็น”มนุษย์นี่หว่า” เมื่อยืนจ้องหน้ากันระยะใกล้ๆไม่กี่เมตร มันจะเห็นว่าท่านคือคนไม่ใช่ตัวประหลาด และหมดแรงบันดาลใจในการล่าไปเอง …(ปกติสุนัขสายตาสั้นครับ มองไกลๆได้ลางๆเท่านั้น)
5.ต่อเนื่องจากข้อ 3 และ 4 สุดท้ายในกรณีที่ดูท่าทางแล้วเอาไม่อยู่จริงๆ จะเป็นร็อดไวเลอร์ หรือ เบอร์นาร์ด ตัวโต บางแก้วเอาแน่ …. ทิ้งรถหนีขึ้นที่สูงครับ มองหารั้ว หารถที่จอดอยู่ริมทาง ปีนขึ้นไปเลยอย่าได้ลังเล พิชัยสงครามซุนวูระบุเอาไว้ว่าการหนีคือยอดกลยุทธครับ ส่วนมากพวกนี้ไม่ค่อยอดทนรอเท่าไหร่ ไม่นานก็จะไปเอง
มีเพื่อนผมแนะนำวิธีให้พกขนม พกอาหารไปให้มัน พอมันมาก็โยนลูกชิ้นบ้าง น่องไก่บ้างไปให้มันหมายจะ”ผูกมิตร” เป็นเพื่อนกันตามประสาคนรักหมา แต่วิธีนี้ได้ผลตรงกันข้ามครับ จะกลายเป็นการส่งข้อความว่า “ไล่ไอ้นี่แล้วมีของกิน” ดังนั้นการจะรับมือกับตัวไหน แบบไหน คงต้องดูนิสัยและปัจจัยแวดล้อมด้วย ส่วนตัวผมแถวบ้านเคยมีโกลเด้นรีทรีฟเวอร์แก่ๆตัวนึง ปกติใจดีมากเดินผ่านก็เล่นกัน แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงล้อจักรยานผ่าน จะต้องวิ่งไล่กันทุกที จนวันหนึ่งที่ตัดสินใจหยุดยืนถอดหมวก ถอดแว่นให้มันดู ….หลังจากนั้นก็ไม่เคยไล่อีกเลย…
ใครมีประสบการณ์เด็ดๆ เล่าเรื่องน่าหวาดเสียวหรือวิธีรับมือพวกนี้ ลองมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันนะครับ การขี่จักรยานทำให้ผมรู้ว่า …”หมาไทยไล่ไกลที่สุด”