ถ้าคุณมองหาพาวเวอร์มิเตอร์ และมีจักรยานหลายๆคัน ทางเลือกที่่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ก็มีตัวเลือกที่ให้คุณต้องตัดสินใจมากมาย ทั้ง SRM และ Garmin ซึ่งในครั้งนี้ เราจะมานำเสนอ Favero Assioma ที่มาในฟีเจอร์ที่โดดเด่น วัสดุการผลิตที่พรีเมียมและสามารถงัดกับคู่แข่งที่รุกตลาดมาก่อนได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไรเลย ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนนะครับว่า ความแ่มนยำและเสถียรของพาวเวอร์มิเตอร์นั้น ถือว่าเป็นที่”มั่นใจได้” พอๆกันในระดับชั้นแบรนด์ไฮเอ็นด์ระดับมาตรฐานสากลกันหมดแล้ว ไม่ต้องมานั่งคุยกันว่า +-1 กับ +-2 จะเลือกอันไหนดี เพราะมันจิ๊บจ๊อยมากๆจนไม่เอามานั่งคิดให้ปวดหัว ดังนั้น การพรีวิวข้อมูลต่างๆจึงเน้นไปที่การใช้งานและคุณสมบัติเด่นเป็นสำคัญ ถ้าไม่ใช่วัตต์แบรนด์ทางเลือกราคาเบาๆ คงไม่จำเป็นต้องเอากราฟมาลงกันให้วุ่นวายครับ

อย่างไรก็ตาม สำนักสื่อต่างประเทศได้นำเอาบันไดตัวนี้ไปทดสอบเทียบกับวัตต์แบรนด์ต่างๆก็พบว่ามันทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ค่าวัตต์แตกต่างจากตัวเปรียบอยู่ราว 2-3 วัตต์เท่านั้น และมีการตอบสนองที่รวดเร็ว คงที่ไม่มีการกระโดดขึ้นลงของค่าวัตต์อย่างไร้ปัจจัย แต่คุณสมบัติหลักๆของมันที่ต้องแนะนำคือ การติดตั้งที่ทำได้อย่างง่ายดายใช้อุปกรณ์แค่หกเหลี่ยมตัวเดียวก็จบได้ ไม่ต้องอาศัยประแจปอนด์ ซึ่งบันไดวัตต์ที่ทำได้แบบนี้หลักๆก็มีเพียง Garmin Vector 3 และ PowerTap P2 เท่านั้น Assioma จึงเข้ามา่รวมอยู๋ในกลุ่มของวัตต์ที่ติดตั้ง ย้ายคันได้อย่างง่ายที่สุด โดยที่เมื่อเทียบกับพี่ๆทั้งสองรุ่น พบว่า Assioma นั้นมีตัวบอดี้ที่เพรียวบางกว่า PowerTap แต่ก็หนากว่า Vector 3 เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ด้วยการออกแบบกลไกภายในของ Assioma ใช้เกจที่วัดแรงบิดจากการออกแรงอยู่ภายในแกนบันได และมีชุดส่งสัญญาณและแบทเตอรีอยู่ด้านในของบันไดที่ติดตั้งกับขาจัน เพื่อลดโอกาสเสียหายจากการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

แต่จุดที่แตกต่างที่สุดก็คือ ด้านพลังงานของบันได Assioma เลือกใช้ระบบแบทเตอรีภายใน สามารถชทาร์จไฟได้ โดยใช้งานได้ต่อเนื่อง 50 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง คิดเป็นระยะทางราวๆ  1500 กม. หรือเวลาใช้งานราวๆ 1 เดือน สำหรับนักปั่นสายฝึกซ้อม หรือ 2 เดือนสำหรับนักปั่นเพื่อสุขภาพที่ปั่นสัปดาห์ละ 2-3 วัน โดยสามารถเข้าสู่ Sleep Mode โดยการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชั่นเพื่อบังคับให้บันไดไม่ตื่นขึ้นมาค้นหาสัญญาณแม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวตัวบันได ช่วยยืดอายุการใช้งานแบทเตอรีต่อการชาร์จไฟได้เป็นอย่างดี เพราะระหว่างเดินทาง คุณไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังไฟไปกับการตื่นมาอย่างไร้สาเหตุของเจ้าวัตต์สุดรัก แล้วไปแบทฯหมดเอาตอนปั่นให้หงุดหงิดใจ

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆทำได้ทั้ง ANT+ และ Bluetooth ทำงานร่วมกับไมล์จักรยานมาตรฐานได้อย่างหายห่วง รวมถึงเชื่อมต่อปรับตั้งค่ากับสมาร์ทโฟนได้ และแน่นอนว่า สามารถนำไปเล่น E-Cycling ได้ด้วยเพราะมันส่งสัญญาณวัตต์มาทาง Bluetooth ได้ ซึ่งค่าวัตต์ที่ส่งออกมานั้นก็วัดแบบสองข้างเป็นอิสระจากกัน  แสดงค่าบาลานซ์ซ้าย-ขวา ได้บนอุปกรณ์และซอฟท์แวร์อื่นๆได้อย่างเต็มระบบ ทั้ง Trainingpeaks และ Garmin Connect

บันได Assioma คู่หนึ่งมีน้ำหนัก 304 กรัม หนักกว่าบันไดระดับเรือธงอยู่ราวๆ 120-150 กรัม และเบากว่า Garmin Vector 3 อยู่ราว 40 กรัม นับว่านี่เป็นจุดเด่นที่ดีเยี่ยมสำหรับตัวเลือกนี้เลยครับ เพราะ น้ำหนักของ Vector 3 ที่มากกว่านั้น ยังไม่รวมถ่าน LR44 อีก 4 ก้อนที่ต้องใส่ในบันไดนะครับ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Assioma ขาดไปจากคู่แข่งก็คือ การส่งข้อมูลวัตต์เชิงลึกอื่นๆเช่น ค่า Cycling Dynamic ที่บันได Vector 3 ทำได้อย่างละเอียดยิบ ซึ่งข้อนี้คุณก็ต้องเลือกเอาล่ะครับว่า ต้องการอะไรมากกว่ากัน

 

สรุปสุดท้ายว่า Assioma เป็นบันไดวัตต์ที่คุณสมบัติสมบูรณ์แบบที่สุดตัวหนึ่ง มาในราคาที่กระเป๋าไม่ระเบิด เทียบ่ง่ายๆว่า หากคุณซื้อขาวัตต์ข้างเดียวหมื่น ถ้าคุณซื้อสองข้าง เพิ่มเงินอีกนิด ก็จะได้บันไดวัตต์ที่ใช้งานสบายๆ ย้ายคันได้ง่าย มีจักรยานกี่คันๆก็สามารถย้ายคันไปได้สะดวกที่สุดไม่ต้องซื้อหลายชิ้น หลายตัวติดตั้งคันละอันให้เปลือง จะขี่เสือหมอบ ขี่รถไตรฯ หรือไทม์ไทรอัล จะขี่เทรนเนอร์หรือไปปั่นบนถนน ก็ใช้วัตต์ตัวเดียวกันได้ตลอด แถมชาร์จไฟใช้งานสบายๆไม่ต้องกลัวว่าจะหาซื้อถ่านได้หรือไม่ กับน้ำหนักที่จัดว่าเบาเลยทีเดียว หรือถ้างบประมาณไม่ถึงสองข้าง Assioma ก็มีตัวเลือกแบบข้างเดียวให้เลือกใช้ในราคาที่เบากว่าอีกด้วย

ราคาขายที่พบในท้องตลาด สำหรับแบบ DUO หรือสองข้างชุดละ 32,900 บาท และแบบ UNO หรือข้างเดียว 22,900 บาท

June 15, 2020 cyclinghub 0 Comment