ก่อนหน้านี้เราพาไปทดสอบรีวิวจักรยานไฟฟ้าในรูปแบบเสือภูเขากันมาแล้ว วันนี้เราขอนำข่าวการเข้าสู่ตลาดไฟฟ้ากับเขาบ้างของค่าย Trek ที่มาในรูปแบบเสือหมอบไฟฟ้า มุ่งเน้นไปที่ตลาดนักปั่นที่ต้องการตัวช่วยส่งกำลังให้ปั่นร่วมกับคนอื่นได้ แต่ยังได้ออกกำลังกายได้อย่างที่ต้องการ สามารถไปถึงที่หมายและร่วมสนุกกับจักรยานได้อย่างไม่ต้องกังวล กับเสือหมอบไฟฟ้าสมรรถนะสูง Trek Domane+ โดยใช้โครงสร้างเฟรมพื้นฐานจากในตระกูล Domane ซึ่งออกแบบมาเพื่อเน้นความสบายและการปั่นระยะทางไกล ลดแรงสะเทือนที่ทำให้เกิดความล้าในขณะปั่น และเป็นรถแข่งสำหรับเส้นทางสุดโหดของการแข่งอาชีพรูปแบบคลาสสิค ประกอบมากับชุดขับเคลื่อนและระบบดิสค์เบรคแบบไฮโดรลิคส์ Sram Force และได้กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยจาก Borsch Performance
น้ำหนักรถทั้งคันอยู่ที่ราว 17 กก. ซึ่งแน่นอนว่ามันจัดว่าหนักมากสำหรับเสือหมอบ แต่นี่คือน้ำหนักจกรยานไฟฟ้าที่ถือว่าเบามากในทางกลับกัน น้ำหนักดังกล่าวรวมกับกำลังมอเตอร์ จะช่วยให้ผู้ปั่นสามารถเดินทางไกลบนจักรยานผ่านเส้นทางเนินเขาไปได้อย่างไม่ยากนัก โดยกำำลังมอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยออกแรงปั่นเมื่อมีแรงบิดสูง เกิดแรงต้านตามระดับที่ต้องการ ล็อคความเร็วสูงสุดเอาไว้แตกต่างกันไปตามแต่กฏหมายของประเทศต่างๆ โดยในสหรัฐอเมริกา ตั้งความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ ประมาณ 45 กม./ชม. และในสหราชอาณาจักรล็อคควงามเร็วสุงสุดเอาไว้ที่ 25 กม./ชม. และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ระยะทางประมาณ 105 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง
แม้ว่าจักรยานไฟฟ้าจะถูกมองในภาพลักษณ์ที่แตกต่างไปในบ้านเรา และยังติดขัดในเรื่องของกฏหมายและรายละเอียดการนำเ้าอยู่บ้าง แต่ในตลาดโลกนี่คืออนาคตที่ทำให้จักรยานเข้าสู่ผู้คนได้ง่ายและสนุกได้อย่างสะดวกมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย คำถามก็คือ เราจะเปิดรับมุมมองใหม่นี้กันได้เมื่อไหร่ เพราะปัญหาของมันไม่ได้อยู่ที่ตัวจักรยานไฟฟ้าเอง แต่อยู่ที่ระบบ และความไม่เข้าใจของคนในแวดวงจักรยานเองด้วยซ้ำ ซึ่งยังมองว่านี่คือจักรยานของคนอื่นแอ และเป็นจักรยานที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ดังจะเห็นได้ว่าในประเทศที่ยอมรับจักรยานไฟฟ้า ต่างก็หามาตรฐานการควบคุมที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงในการแข่งจักรยานอาชีพระดับนานาชาติ ก็กำลังจะเปิดให้มีกจักรยานไฟฟ้าบรรจุอยู่ในชนิดของการแข่งขันด้วยในอนาคตอันใกล้ และงานปั่นสมัครเล่นอีกมากมายในยุโรป ก็เปิดให้จักรยานไฟฟ้าเข้าร่วมได้แล้ว
