
ผ่านตากันไปบ้างแล้วไม่น้อยกับการมาของเสือหมอบจากแบรนด์จักรยานยนต์ชั้นนำ “คาวาซากิ” ที่ดึงดูดความสนใจของแฟนๆนักปั่นได้พอสมควร และจากข้อมุลที่เราได้รับมาทั้งหมดนี้ ทำให้สามารถสรุปจุดที่น่าสนใจออกมาได้ 3 ข้อ ซึ่งรับรองว่า คุณอาจไม่นึกถึงอย่างแน่นอน
นี่ไม่ใช่การตีแบรนด์บนเฟรม
แม้ว่าข้อมุลการวิจัยจะยังมาไม่ถึงมือสื่อมวลชน แต่ข้อมุลเบื้องต้นของผู้ผลิต เปิดเผยว่าเสือหมอบของคาวาซากิ ทำการออกแบบและผลิตจากโรงงานในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะส่งมาทำสีและประกอบในฐานการผลิตของคาวาซากิในประเทศไทย นั่นแปลว่า พวกเขามุ่งเน้นจริงจังกับการพัฒนาเสือหมอบระดับไฮเอ็นด์คันนี้ ที่ผ่านมาคาวาซากิมีการผลิตจักรยานแบบใช้งานทั่วไปจำหน่ายในญี่ปุ่นให้เห็นมาแล้ว และนี่เป้นครั้งแรกที่พวกเขาก้าวขึ้นมาสร้างเสือหมอบระดับแข่งขันออกมา
การรับรองมาตรฐานแข่งขัน
ถ้าสังเกตุให้ดีจะพบว่า บนเฟรมมีการรับรองการออกแบบโดย UCI (Union cycling International) ซึ่งทำหน้าที่กำกับควบคุมการแข่งขันจักรยานระดับนานาชาติ นอกจากที่บ่งบอกว่าการออกแบบทั้งหมดของเฟรมคาวาซากิอยู่บนมาตรฐานกติกาและความมั่นใจได้ในการใช้งานระดับแข่งขันแล้ว ยังแปลว่าพวกเขามีแผนระยะยาวอะไรบางอย่างที่ซ่อนเอาไว้ในตราสัญลักษณ์นี้ด้วย เพราะหากไม่มีแนวคิดจะส่งให้เฟรมนี้ไปอยู่ในรายการโปรทัวร์ ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปหาการรับรองมาให้เป็นงบประมาณ ซึ่งวิสัยทัศน์นี้แหละที่เราต้องดูกันต่อไป
มองทิศทางสุ่อนาคต
นอกจากเสือหมอบแล้ว คาวาซากิยังส่งเอา”อีไบค์” หรือจักรยานไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการออกกำลังกายออกมาด้วย สอดคล้องกับแนวโน้มพัฒนาการของตลาดจักรยานโลกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดอีไบค์ในยุดรปหลังวิกฤติการโควิดในปีที่แล้ว เพราะโลกได้พิสูจน์แล้วว่า จักรยานไฟฟ้าคือจักรยานที่ทำให้คนทั่วไปเข้าสู่โลกของการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานได้ง่ายขึ้น อีไบค์จากคาวาซากิ จึงบ่งบอกได้ว่าพวกเขาเข้าสุ่อุตสาหกรรมจักรยานด้วยการมองตลาดในอนาคตแบบไม่ต้องสงสัย
สามารถดุข้อมุลเพิ่มเติมได้จาก ลิงค์
หรือรับชมคลิปข่าวการเปิดตัวของเราได้ที่นี่